TH EN

RMF หุ้นเทคโนโลยี คัดธุรกิจอัจฉริยะ เพิ่มโอกาสสร้างกำไรรอใช้วัยเกษียณ

โพสต์เมื่อ 7 ตุลาคม 2563 | บทความโดย : บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้

“ธุรกิจเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก” วลีนี้ เป็นสิ่งที่นักลงทุนหลายคนอาจเคยได้ยิน ทั้งจากงานเสวนา โฆษณาขายสินค้าไฮเทค ฯลฯ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ธุรกิจกลุ่มนี้ดีพอ ที่จะอยู่ในพอร์ตยาวไปจนถึงวัยเกษียณเลยหรือเปล่า ?

    นักลงทุนส่วนใหญ่ต่างยอมรับว่า “ธุรกิจเทคโนโลยี” เป็น Mega Trends ที่สามารถเติบโตได้เป็นอย่างดี ทั้งในภาวะปกติ และในภาวะวิกฤตที่ไม่คาดคิด แต่ถ้าจะลงทุนหุ้นกลุ่มนี้ไปจนกระทั่งเกษียณ หลายคนอาจยังมีข้อสงสัย และไม่มั่นใจว่า “ธุรกิจเทคโนโลยี” จะไปต่อไปแค่ไหน หรือจะเป็นแค่ดาวรุ่ง ที่หวือหวาแค่ในช่วงนี้ แล้วหายไปหรือเปล่า? เรามาหาคำตอบกันค่ะ

หุ้นเทค…ปรับตัวและเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว

    

    หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นของธุรกิจ“ธุรกิจเทคโนโลยี” ก็คือ ความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาวะโลก ที่มีความเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะเห็นได้จากช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ธุรกิจเทคโนโลยียุคใหม่ แทบจะไม่หยุดชะงัก หรือได้รับผลกระทบน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับธุรกิจประเภทอื่นๆ

    ดังนั้น “Cloud Computing” จึงได้รับความนิยมมากจากหลายธุรกิจ เนื่องจากมีจุดเด่นทั้งในเรื่องการประหยัดต้นทุนด้านไอที จากการที่ผู้ใช้สามารถเลือกกำลังการประมวลผล เลือกจำนวนทรัพยากร ตามความต้องการได้ อีกทั้งการประมวลผล ก็มีความรวดเร็ว มาตรฐานความปลอดภัย ก็อยู่ในระดับสูง จึงทำให้หลายบริษัทระดับโลกหลายแห่งเข้าไปใช้บริการ

    โดยจะเห็นได้ว่านับตั้งแต่เกิด COVID-19 ธุรกิจที่ใช้นวัตกรรมเทคโนโลยี ต่างเป็นที่ต้องการของประชากรทั่วทั้งโลก ทั้งในแง่ของสินค้าและบริการ ยกตัวอย่างดังนี้กลุ่มธุรกิจเทคฯที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด : Video Chat & Online Conference, Onlline Shoping, Social Media, Media & Entertainment, Food Delivery ดังนั้นนี่เองจึงทำให้เห็นว่า ธุรกิจด้านเทคฯที่สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว แทบจะไม่กระทบกระเทือนด้านยอดขายเลย แม้จะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ที่กระทบต่อทั้งโลก

 

ผลการดำเนินงานเติบโตสม่ำเสมอและมีเสถียรภาพ

    ถ้าลองวิเคราะห์ในแง่ของความสม่ำเสมอ ด้านกำไรของบริษัทในกลุ่มเทคฯ ก็จะยิ่งพบว่า หุ้นกลุ่มนี้ยังคงน่าสร้างปรากฏการณ์ “ว้าว” อย่างน่าพึงพอใจ

 

    นั่นก็เป็นเพราะ เมื่อย้อนกลับไปพิจารณากำไรต่อหุ้น (EPS ,Earning per share) กลุ่มเทคฯ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (2011-2020) จะพบได้ว่ากลุ่มหุ้นในดัชนี “MSCI WORLD INFORMATION TECH” (MXWOOIT) ที่สะท้อนถึงหุ้นกลุ่มเทคฯนี้ มี EPS ที่เติบโตอย่างมีเสถียรภาพมาก และมีอัตราการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง 

    ไม่เพียงแค่นี้ เมื่อเทียบ EPS ระหว่างดัชนีที่เป็นตัวแทนของหุ้นทั่วโลกอย่าง “The MSCI All Country World Index” (MXWD) ในช่วงเวลาเดียวกัน จะพบได้ว่า EPS ของดัชนีหุ้นกลุ่มเทคฯ ปรับตัวสูงขึ้นกว่าดัชนีหุ้นทั่วโลกอย่างมาก ซึ่งก็เป็นเครื่องชี้วัดได้ว่าธุรกิจกลุ่มเทคฯ เติบโตแบบมาแรงจริงๆ 

    และเพื่อให้เห็นภาพของธุรกิจนี้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ขอยกตัวอย่าง “AMAZON” ซึ่งใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงตัวเองจากในอดีต ที่ทำธุรกิจร้านขายหนังสือ Online ไปสู่ธุรกิจ Cloud Services จนทำให้สามารถสร้างยอดขายไตรมาส2/2020 สูงกว่า 40% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ทั้งที่ต้องเผชิญปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 

 

นักลงทุนสถาบันมีโอกาสเข้าซื้อหุ้นเทคฯมากขึ้น

    ดัชนี MSCI เพิ่มน้ำหนักหุ้นกลุ่มเทคฯมากขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่น่าจับตาอย่างมาก ...นักลงทุนอย่างเรา ต่างเข้าใจดีว่าเมื่อดัชนี MSCI เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มธุรกิจใดก็ตาม นั่นหมายความว่า นักลงทุนสถาบันที่ใช้ดัชนี MSCI ในการอ้างอิงผลตอบแทนกองทุน ก็มีโอกาสจะเพิ่มน้ำหนักหุ้นกลุ่มนั้นๆ ตามไปด้วย … หรือสรุปก็คือ มีโอกาสที่เม็ดเงินลงทุนจากทั่วโลก จะไหลเข้ามาในกลุ่มเทคฯมากขึ้นนั่นเอง

 

    โดยจากคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ประเมินว่า EPS บริษัทเทคฯเทคยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอีก 2 ปีข้างหน้านั้น ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า มุมมองในหุ้นกลุ่มนี้ยังสดใสอยู่มากในระยะสั้น ขณะที่ระยะยาว คาดการณ์ว่า ธุรกิจกลุ่มนี้จะยังเป็นที่ต้องการของคนทั่วโลก และจะได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมหลังจากการแพร่ระบาดจบลง จึงน่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้มั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่า เงินลงทุนจากทั่วโลก จะยังพุ่งตรงมายังธุรกิจเทคฯ

ธุรกิจเทคฯดีพอ ที่จะอยู่ในพอร์ตของคุณไปจนถึงวัยเกษียณหรือเปล่า? ถึงตอนนี้คุณมีคำตอบในใจว่าอย่างไร?   

 

© สงวนลิขสิทธิ์ 2561 ธนาคารทิสโก้ จำกัด มหาชน