TH EN

นิทานก่อนลงทุน หุ้นห่านทองคำ VS หุ้นห่านไข่ทองคำ

                            

โพสต์เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2563

นักลงทุนในตลาดทุกคนต่างมีความปรารถนาจากการลงทุนไม่ต่างกัน คือ “ต้องการผลตอบแทนที่ดี” ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์ที่หลายคนชื่นชอบ คือ การนำเงินไปลงทุนกับหุ้นพื้นฐานดีที่มีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ เสมือนการได้ผลตอบแทนจากห่านที่ออก “ไข่ทองคำ” เช่นเดียวกันกับนิทานเรื่อง... นิทานเรื่องอะไรนะ? “ห่านทองคำ” หรือ “ห่านไข่ทองคำ”? เรื่องไหนกันนะ?

แม้นักลงทุนจะมีเป้าหมายการลงทุนใน “หุ้นปันผล” เหมือนกัน แต่หลายคนก็ใช้คำนิยามเรียกขานหุ้นที่ต่างกันไป บ้างก็เรียกหุ้นชนิดนี้ว่าเป็น “หุ้นห่านทองคำ” บ้างก็เรียกว่า “หุ้นห่านไข่ทองคำ” หรือแม้กระทั่งเรียกทั้งสองชื่อคละกันไปตามอารมณ์ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วที่มาของ “ห่านทองคำ” กับ “ห่านไข่ทองคำ” เป็นคนละเรื่องกัน

โลภมากจะลาภหาย กับนิทาน “ห่านไข่ทองคำ”

นิทานเรื่อง “ห่านไข่ทองคำ” หรือ “The Goose That Laid the Golden Eggs” นั้น เป็นหนึ่งในเรื่องที่เล่าขานมาจาก “นิทานอีสป” ซึ่งมีเนื้อหาว่า “สามีภรรยาชาวชนบทคู่หนึ่ง (บางท้องถิ่นเล่าว่าชายชาวชนบทรายหนึ่ง) มีห่าน (บางท้องถิ่นเล่าว่าเป็นแม่ไก่) ที่ออกไข่เป็นทองคำเป็นทองคำทุกวัน แต่อยู่มาวันหนึ่งสามีภรรยาคู่นี้ก็คิดขึ้นมาว่า ในท้องของห่าน จะต้องมีก้อนทองอยู่ข้างในแน่ๆ จึงได้ร่วมมือกันผ่าท้องห่านออกมา เพียงเพราะหวังว่า จะได้ก้อนทองคำอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องรอให้ห่านออกไข่วันละฟองเหมือนที่เคย

อย่างไรก็ตามเมื่อผ่าท้องห่านเสร็จแล้ว ทั้งสองกลับต้องพบกับความผิดหวัง เพราะในท้องห่านไม่มีทองคำที่พวกเขาคาดหวัง แถมห่านที่ออกไข่เป็นทองคำ กลับต้องมาตายลงไปด้วย

นิทานเรื่อง “ห่านไข่ทองคำ” หรือ ห่านที่ออกไข่เป็นทองคำ จึงจบลงด้วยคติสอนใจที่ว่า “โลภมากจะลาภหาย”

นิทานกริมม์ “ห่านทองคำ”

ส่วนอีกเรื่อง คือ “ห่านทองคำ” หรือ “Golden Goose” นิทานเรื่องนี้ เป็นหนึ่งในเรื่องที่เล่าขานจากสองพี่น้องตระกูลกริมม์ คือ ยาค็อบ กริมม์ และวิลเฮล์ม กริมม์ นักวิชาการชาวเยอรมันซึ่งรวบรวมนิทานพื้นบ้าน และเทพนิยายรวมถึงผลงานเกี่ยวกับวิวัฒนาการทางภาษาที่มีการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา ซึ่งนับว่าเป็นนักเล่านิทานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคู่หนึ่งในยุโรป ทำให้เทพนิยายมากมายแพร่หลายไปทั่วโลก

โดยเนื้อหาของเรื่อง “ห่านทองคำ” มีใจความว่า “ครอบครัวหนึ่งมีลูกชาย 3 คน ซึ่งทั้งสามพี่น้องได้ถูกส่งไปตัดไม้ในป่า โดย “ลูกชายคนโต” ได้เดินทางออกไปคนแรก พร้อมขนเสบียงไปทั้งเค้ก และไวน์ติดตัวไปด้วย ระหว่างทางเขาได้พบชายชราตัวเล็กผมสีเทาที่เข้ามาขอแบ่งปันอาหารด้วย แต่เขากลับไม่ยอมเจียดให้ และมุ่งหน้าเดินทางต่อไปเพื่อตัดต้นไม้ น่าเสียดายที่ลูกชายคนโตทำตามความตั้งใจไม่สำเร็จ เพราะประสบอุบัติเหตุจนต้องกลับบ้านไปก่อน 

จากนั้นเมื่อ “ลูกชายคนที่สอง” เดินทางเข้าไปตัดไม้ และได้พบกับชายชราที่เข้ามาขอแบ่งปันอาหาร แต่เขาไม่ยอมเจียดให้ก็ประสบเหตุการณ์เช่นเดียวกับพี่ชายคนโต จนต้องกลับบ้านไปเช่นเดียวกัน

คราวนี้เมื่อลูกชายคนที่ 3 ชื่อ “ซิมเปิลตัน” (Simpleton) ถูกส่งออกไปตัดไม้บ้าง เขาก็ต้องพบชายชราเช่นเดียวกับพี่ชายทั้งสอง เพียง แต่ซิมเปิลตันได้แบ่งเสบียงให้ชายชราด้วยความเอื้ออาทร ด้วยเหตุนี้เองชายชราจึงได้ตอบแทนเขาด้วยการให้เขาไปที่ต้นไม้ที่เลือกไว้ และเมื่อซิมเปิลตันตัดต้นไม้นั้น ก็พบ “ห่านทองคำล้ำค่า” เมื่อซิมเปิลตันอุ้มห่านทองคำเดินทางต่อไปเรื่อยๆจนถึงโรงแรมแห่งหนึ่ง ก็ได้พบกับลูกสาวคนโตของเจ้าของโรงแรม ซึ่งเมื่อนางเห็นเจ้าห่านก็รู้สึกต้องตาต้องใจอย่างมาก จึงพยายามจะดึงขนห่านทองคำออกมา

ทันใดนั้นเอง! เมื่อลูกสาวคนโตของเจ้าของโรงแรมเอื้อมมือไปแตะโดนเจ้าห่าน มือของนางก็ติดแน่นอยู่กับตัวห่าน ดึงเท่าไรก็ไม่ออก พอลูกสาวคนรองเห็นดังนั้น จึงรีบเข้ามาดึงพี่สาวคนโตหวังที่จะช่วยเหลือ แต่มือก็ติดแน่นกับตัวพี่สาวคนโตดึงเท่าไรก็ดึงไม่ออกเช่นกัน 

ลูกสาวคนสุดท้องจึงเข้ามาช่วยดึงพี่สาวคนรอง แต่ก็ต้องติดพ่วงกันไปอีกทอดหนึ่ง ดังนั้นซิมเปิลตันจึงจำใจต้องอุ้มห่านทองคำที่มีหญิงสาวสามคนติดอยู่ เดินทางต่อไปเรื่อยๆ 

อย่างไรก็ตามระหว่างเดินทางไปนั้น บาทหลวงผู้ดูแลโบสถ์ และผู้ใช้แรงงานอีกสองคนพยายามจะเข้าไปช่วยคน แต่ทุกคนก็ประสบชะตากรรมเดียวกับ คือตัวติดกันไป จนกลายเป็นขบวนพาเหรดเกาะต่อเป็นแถวอย่างไม่ตั้งใจ ซิมเปิลตันจึงเดินทางต่อไปเรื่อยๆ กระทั่งผ่านเส้นทางที่จะไปยังปราสาท

ตัดภาพมา ณ ปราสาทแห่งหนึ่ง มีพระราชาซึ่งอาศัยอยู่กับเจ้าหญิงองค์หนึ่ง ซึ่งไม่เคยหัวเราะมาก่อนเลยในชีวิต ดังนั้นพระราชาจึงมีการตั้งกติกาว่าหากใครทำให้เจ้าหญิงหัวเราะออกมา จะได้อภิเษกกับเจ้าหญิง แม้จะดูเป็นเรื่องที่ยากเย็น แต่เมื่อซิมเปิลตันกับห่านทองคำ และคนเจ็ดคนเดินแถวผ่านมา พระธิดาที่ทอดพระเนตรมองทางหน้าต่างเห็นเข้าก็หัวเราะอย่างหนักจนน้ำหูน้ำตาไหล ซิมเปิลตันจึงถือว่าเป็นผู้ทำภารกิจสำเร็จ และได้แต่งงานกับพระธิดาครองอาณาจักรอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขจนชั่วนิรันดร์…

 

อ่านนิทานสองเรื่องจบแล้ว... หวังว่านักลงทุนทุกท่านจะนอนหลับฝันดีในคืนนี้ มี “หุ้นห่านทองคำ” และ “หุ้นห่านไข่ทองคำ” สร้างผลตอบแทนให้พอร์ต สร้างความสุขดังเทพนิยายชั่วนิจนิรันดร์


 

ที่มาข้อมูล : วิกิพีเดีย https://en.wikipedia.org/wiki/Golden_Goose และ https://en.wikipedia.org/wiki/The_Goose_That_Laid_the_Golden_Eggs

© สงวนลิขสิทธิ์ 2561 ธนาคารทิสโก้ จำกัด มหาชน