เคล็ด (ไม่) ลับ...การวางแผน “ปลดหนี้้"

ไม่มีใครอยากเป็นหนี้ เพราะ ‘การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ’  แต่หากคุณกำลังเป็นหนี้แล้วก็ควรต้องจ่ายหนี้ตามกำหนด แต่เมื่อมีหนี้สินมากเกินไปและต้องการปลดหนี้ให้เร็วที่สุดอาจรู้สึกสับสนว่าจะจัดการอย่างไร เนื่องจากไม่มีแผนการชำระหนี้ ดังนั้นสิ่งแรกที่ควรทำคือ การวางแผนชำระหนี้อย่างเป็นขั้นตอน แล้วลงมือปลดหนี้ด้วยความตั้งใจ และเมื่อผ่านพ้นวิกฤติไปแล้ว ก็ต้องปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายเพื่อไม่ให้กลับมาเป็นหนี้อีกครั้งในอนาคต

            แผนการชำระหนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้เห็นภาพรวมเท่านั้น แต่ยังช่วยให้มีแรงจูงใจในการปลดหนี้ได้ เพราะเราสามารถเห็นความคืบหน้าที่เกิดขึ้นจริงได้ ยิ่งเห็นหนี้ค่อย ๆ ลดลง ยิ่งต้องการนำเงินไปชำระหนี้มากขึ้นเท่านั้น ถือเป็นกระบวนการปลดหนี้ได้เร็วขึ้น ซึ่งหากต้องการปลดหนี้จึงควรมีแผนการชำระหนี้และปฏิบัติตามแผนอย่างเคร่งครัด ถ้าทำได้หนี้แต่ละก้อนก็จะลดลงและหายไปอย่างรวดเร็ว โดยแผนการชำระหนี้เบื้องต้นมี ดังนี้

ทำรายการหนี้ทั้งหมด

            ก่อนคิดกลยุทธ์ว่าจะปลดหนี้ได้อย่างไร ก็ต้องเห็นจำนวนหนี้ทั้งหมดและรายละเอียดต่าง ๆ ของหนี้ เช่น จำนวนเงินที่ต้องชำระขั้นต่ำ อัตราดอกเบี้ย รวมถึงจำนวนเงินที่ค้างชำระทั้งหมด ที่สำคัญต้องรวบรวมรายการหนี้ทั้งหมดเอาไว้เพื่อให้เห็นภาพรวม ทั้งหนี้บัตรเครดิต หนี้บัตรกดเงินสด หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล หนี้บ้าน หนี้รถ ไปจนถึงหนี้ที่ยืมมาจากคนรอบข้างและหนี้นอกระบบ

จัดอันดับหนี้

        เมื่อเห็นภาพรวมของหนี้ทั้งหมดแล้ว ถัดไปต้องจัดลำดับหนี้ที่ต้องชำระ โดยหลัก ๆ แล้ว มี 2 วิธี คือ ชำระหนี้ที่มียอดคงเหลือน้อยที่สุด ซึ่งจะทำให้มีเงินเหลือเพื่อนำไปชำระหนี้ก้อนอื่นได้ และช่วยสร้างกำลังใจในการบริหารจัดการหนี้ก้อนต่อ ๆ ไป ส่วนอีกวิธีหนึ่ง คือ การชำระหนี้ที่จ่ายดอกเบี้ยสูงที่สุด ซึ่งเป็นการช่วยประหยัดเงินค่าดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย อย่างไรก็ตาม การที่จะเลือกวิธีไหนนั้นก็ต้องเลือกให้เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด

หาเงินเพื่อชำระหนี้

            มาถึงตรงนี้ก็ต้องสำรวจว่ามีเงินเหลือเท่าไหร่ในแต่ละเดือนเพื่อนำไปชำระหนี้ ถ้าเงินเหลือไม่เพียงพอก็ต้องหาทางแก้ไข ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดและลงมือทำได้ทันที คือ การลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ การขายทรัพย์สินที่มีอยู่ หรือแม้กระทั่งเงินคืนภาษีจากกรมสรรพากร จากนั้นก็นำไปชำระหนี้ตามแผนที่วางเอาไว้

เก็บออม

            เมื่อชำระหนี้ทั้งหมดแล้วก็ควรเน้นไปที่การเก็บออม โดยเมื่อมีรายรับเข้ามาก็ต้องหักเงินแยกในบัญชีเงินออมอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้กลับไปเป็นหนี้อีกครั้งในอนาคต โดยเงินออมก้อนแรกที่ควรมี คือ เงินออมเผื่อฉุกเฉิน

            อีกทั้ง ควรจัดทำแผนการใช้เงินด้วยการแยกประเภทค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและไม่จำเป็นออกจากกัน และพยายามใช้เงินจากงบประมาณที่ตั้งไว้เท่านั้น ที่สำคัญเมื่อผ่านพ้นวิกฤติหนี้สินไปได้แล้วก็ควรเป็นหนี้เท่าที่ชำระไหว ไม่เกินความสามารถในการชำระหนี้ และทุกครั้งควรคิดให้รอบคอบว่าหนี้ที่กำลังจะก่อนั้นเป็นหนี้ดีหรือไม่ รวมกับหนี้เดิมแล้วชำระไหวหรือไม่ เพื่อให้สามารถจัดการการเงินของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ติดตามข้อมูลข่าวสาร TISCO ช่องทางอื่น ๆ ได้แล้ววันนี้!

⭐ Facebook > https://www.facebook.com/TISCOFinancialGroup

⭐ LINE > https://lin.ee/1NQ6yvI

⭐ Twitter > https://twitter.com/TISCOAdvisory

⭐ Instagram > https://instagram.com/tisco_official

⭐ Youtube > https://www.youtube.com/@TISCOGroup

⭐ Website > www.tisco.co.th