กลุ่มทิสโก้ประกาศผลประกอบการปี 58 กำไรคงที่ ที่ 4,250 ล้านบาท

กลุ่มทิสโก้มีผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2558 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 มาอยู่ที่ 1,244 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุหลักเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลัก โดยในไตรมาสนี้ รายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ปรับตัวดีขึ้นจากการขยายตัวของธุรกิจนายหน้าประกันภัย ธุรกิจจัดการกองทุนยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการออกกองทุนใหม่ตามความต้องการของตลาด ในขณะที่ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญคงที่ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

ด้านผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้ ณ สิ้นปี 2558 กลุ่มทิสโก้มีกำไรสุทธิ 4,250 ล้านบาท คงที่จากปีก่อนหน้า โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2 จากการขยายสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค ประกอบกับการบริหารต้นทุนการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ต้นทุนการเงินปรับลดลงอย่างต่อเนื่องตามภาวะตลาด รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลักเติบโตร้อยละ 2.8 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการปรับตัวดีขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมพื้นฐานของธุรกิจจัดการกองทุน จากการออกกองทุนรวมที่หลากหลายในภาวะตลาดที่เอื้ออำนวย ในขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมธนาคารพาณิชย์จากธุรกิจประกันยังคงปรับตัวดีขึ้นแม้ในภาวะสินเชื่อชะลอตัว อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.2 จากการตั้งสำรองหนี้สูญให้แก่ลูกหนี้กลุ่มสหวิริยาสตีลอินดัสตรี เต็มทั้งจำนวน 100 %

สำหรับเงินให้สินเชื่อรวมของกลุ่มทิสโก้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 มีจำนวน 238,260 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 9.3 จากปีก่อนหน้า แม้ว่าการปล่อยสินเชื่อรายย่อยโดยรวมของกลุ่มทิสโก้มีการขยายตัวเพิ่มขั้นจากปีก่อนหน้า แต่ยังคงมีระดับต่ำกว่าการชำระคืนเงินให้สินเชื่อของลูกค้าในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เงินให้สินเชื่อปรับตัวลดลง ทั้งนี้สินเชื่อเช่าซื้อชะลอตัวลงอันเป็นผลต่อเนื่องจากการปรับตัวเข้าสู่ภาวะสมดุลย์ของตลาดรถยนต์ภายหลังจากมาตรการรถคันแรก ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาทั้งสิ้น 2 – 3 ปี นอกจากนี้ ในปี 2558 ยังมีการตัดหนี้สูญของบริษัทสหวิริยาสตีลอินดัสตรี ยูเค (SSI UK) อีกด้วย

ณ สิ้นปี 2558 หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 3.23 จากการจัดชั้นลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของบมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) (ประเทศไทย) จำนวน 821 ล้านบาท ซึ่งมีการตั้งสำรองเต็มโดยหักหลักประกันตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย และการปรับลดลงของเงินให้สินเชื่อรวม ทั้งนี้ หากไม่รวมลูกหนี้สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) (ประเทศไทย) หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ทั้งหมดมีแนวโน้มดีขึ้น

ธนาคารทิสโก้ยังคงรักษาระดับฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งมาโดยตลอดทั้งปี โดยประมาณการอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) สำหรับสิ้นปี 2558 อยู่ที่ร้อยละ 17.9 สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำร้อยละ 8.5 ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีอัตราเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ร้อยละ 13.9 และร้อยละ 4.0 ตามลำดับ

Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่จำเป็นคือสิ่งที่สำคัญสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ ทำให้คุณสามารถใช้งานและเรียกดูเว็บไซต์ได้ตามปกติ คุณไม่สามารถปิดการใช้งานคุกกี้เหล่านี้ในระบบของเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า