ทิสโก้โชว์ผลประกอบการโดดเด่น 9 เดือน กำไรเพิ่ม 10.6%

กลุ่มทิสโก้โชว์ผลประกอบการรอบ 9 เดือน และไตรมาส 3 ปี 52  กำไรยังเติบโตโดดเด่น พร้อมคุมเอ็นพีแอลได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ลุยเดินหน้าขยายธุรกิจตอบโจทย์ทุกความต้องการ  ชู “บัญชีเงินฝากซุปเปอร์ออมทรัพย์” ให้อัตราดอกเบี้ย 1.50 % สูงสุดในระบบธนาคารพาณิชย์ ขยายฐานบัญชีลูกค้าออมทรัพย์ต่อเนื่อง

นายปลิว  มังกรกนก  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้ ในช่วง 9 เดือน (ม.ค. – ก.ย.) ที่ผ่านมา ยังคงมีการเติบโตอย่างมีคุณภาพต่อเนื่อง  และด้วยศักยภาพที่แข็งแกร่งจึงยังคงมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและเพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยล่าสุดในเดือนกันยายน 2552  ทางธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทย่อยของกลุ่มทิสโก้ ได้ลงนามสัญญาความตกลงทางธุรกิจเพิ่มเติมร่วมกับบริษัท เชฟโรเลตเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ในการให้การสนับสนุนทางการเงิน สินเชื่อฟลอร์แพลน แก่ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลตกว่า 100 แห่งทั่วประเทศในวงเงินประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งการร่วมมือในครั้งนี้ยังจะนำมาซึ่งการต่อยอดทางธุรกิจในด้านอื่น ๆ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์สูงสุดอีกด้วย ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์การขยายตัวด้านสินเชื่อของกลุ่มทิสโก้

ด้านนางอรนุช  อภิศักดิ์ศิริกุล กรรมการอำนวยการ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 3 ของปี 2552  (ก.ค. – ก.ย.) กลุ่มทิสโก้มีผลกำไรสุทธิอยู่ที่  512.68 ล้านบาท จากรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิที่เพิ่มขึ้น 52.5% ตามการขยายตัวของสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อรายย่อยซึ่งเพิ่มขึ้น 14.3 % และการปรับตัวสูงขึ้นของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของเงินให้สินเชื่อจาก 3.7 % เป็น 5.2% ในขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอยู่ที่ 732.25 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 142.30 ล้านบาท หรือ  24.1% จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น 46.7% และรายได้จากธุรกิจจัดการกองทุนที่เพิ่มขึ้น 43.3% 

สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปี 2552 กลุ่มทิสโก้มีกำไรสุทธิ 1,468.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 140.50 ล้านบาท หรือ 10.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 1,328.29 ล้านบาท จากรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิที่เพิ่มขึ้น 36.4% ตามการขยายตัวของสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อรายย่อย  และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยโดยรวมเพิ่มขึ้น 92.96 ล้านบาท หรือ  4.9% 

ส่วนเงินให้สินเชื่อของกลุ่มทิสโก้ ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2552 มีจำนวน 116,781 ล้านบาท แบ่งออกเป็น สินเชื่อรายย่อย 75.5%  สินเชื่อธุรกิจ 19.9%  และสินเชื่ออื่นๆ 4.6%  โดยในส่วนของสินเชื่อรายย่อย ประกอบด้วย สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์และอื่นๆ 98.2% และสินเชื่อเพื่อการเคหะ 1.8% ทั้งนี้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่อนุมัติใหม่มีจำนวน 9,877.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 578.53 ล้านบาท หรือ 6.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 

ในส่วนของยอดขายรถยนต์ใหม่ภายในประเทศ งวด 8 เดือนแรกของปี 2552 นั้น อยู่ที่ 317,836 คัน ลดลง 22.9%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้อัตราปริมาณการให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่ของกลุ่มทิสโก้ต่อปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ใหม่เฉลี่ย (Penetration Rate) ใน 8 เดือนแรกของปี 2552 อยู่ที่ 12.9%  ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 9.8% 

ขณะที่เงินฝากรวมมีจำนวน 104,520.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,366.55 ล้านบาท หรือ 1.3% จากสิ้นไตรมาส 2/52 ตามการขยายตัวของฐานเงินฝากออมทรัพย์และเผื่อเรียกเป็นผลจากการที่ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์บัญชีเงินฝากในรูปแบบที่หลากหลาย  โดยสัดส่วนเงินฝากประเภทเงินฝากออมทรัพย์และเผื่อเรียกต่อยอดเงินฝากอยู่ที่ระดับเดียวกับไตรมาสที่แล้ว คิดเป็น 23.6% 

นางอรนุช  กล่าวเพิ่มเติมว่า  ในไตรมาส 3 ปี 2552 กลุ่มทิสโก้สามารถลดอัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL)จาก 2.9%  เป็น 2.6% ด้วยการบริหารจัดการสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างมีประสิทธิภาพ และมีการติดตามชำระหนี้ ปรับปรุงโครงสร้างหนี้  รวมทั้งตัดจำหน่ายหนี้สูญที่รัดกุม โดยกลุ่มทิสโก้ใช้วิธีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสําหรับพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ตามเกณฑ์ Basel II  ด้วยวิธี  Collective Approach ซึ่งเป็นการตั้งสำรองตามประมาณค่าความสูญเสียที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอีก 12 เดือนข้างหน้า (Expected Loss) จากพอร์ตสินเชื่อดังกล่าว โดยใช้ข้อมูลสถิติหนี้เสียของพอร์ตสินเชื่อในอดีต ประกอบกับการปรับปรุงข้อมูลให้เข้ากับสถานการณ์ล่าสุดในปัจจุบัน ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของกลุ่มในการตั้งสำรองอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นต่อการดำเนินงาน  

นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล กรรมการอำนวยการ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงเป้าหมายด้านเงินฝากว่า ธนาคารมีสัดส่วนเงินฝากรายย่อยประเภทออมทรัพย์และเผื่อเรียกเพิ่มขึ้นเป็น 24% จาก 11% ในปี 2551 ทั้งนี้เป็นไปตามกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้ารายย่อยด้วยการระดมเงินฝาก “ซุปเปอร์ออมทรัพย์” ที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุดในระบบธนาคารพาณิชย์  โดยให้อัตราดอกเบี้ยสูงถึง 1.50%  มีความคล่องตัวกว่าฝากประจำ และไม่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ธนาคารจะยังคงขยายฐานลูกค้ารายย่อยอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับสัดส่วนเงินฝากให้สอดคล้องกับอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังได้มีการปรับโครงสร้างสายงาน Wealth Management ให้สามารถตอบสนองความต้องการด้านการออมและการลงทุนของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้า “ทิสโก้มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ทางการเงินอย่างหลากหลายทั้งในตลาดเงินและตลาดทุน เพราะเรามีประสบการณ์ในธุรกิจเงินทุนหลักทรัพย์มาก่อน สายงาน Wealth Management จะเป็นการรวมความเชี่ยวชาญทุกด้านไว้ในทีมเดียวกันเพื่อบริการลูกค้าอย่างครบวงจร” ในไตรมาส 3 ปี 2552 นี้ ธนาคารทิสโก้เปิดสาขาใหม่อีกจำนวน 4 สาขา ล่าสุดคือ สาขาวรจักร ทำให้ปัจจุบันธนาคารทิสโก้มีสาขารวมทั้งหมด 41 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้า  เพิ่มปริมาณธุรกิจในการระดมเงินฝากและการปล่อยสินเชื่อ และเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าของธนาคารที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งนี้ ธนาคารมีอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ที่แข็งแกร่งและเพียงพอต่อการขยายธุรกิจในอนาคตที่ระดับ 15.47%

Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่จำเป็นคือสิ่งที่สำคัญสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ ทำให้คุณสามารถใช้งานและเรียกดูเว็บไซต์ได้ตามปกติ คุณไม่สามารถปิดการใช้งานคุกกี้เหล่านี้ในระบบของเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า