กูรูทิสโก้ชี้ เงินเฟ้อเขย่าตลาดหุ้นระยะสั้น คาดอีก 2 ปี กว่าFedจะขึ้นดอกเบี้ย

        24 พ.ค. 64 – ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ ระบุความกังวลด้านเงินเฟ้อสหรัฐฯ จะกดดันตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนแค่ระยะสั้น คาดอีก 2 ปี กว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ย โดยอาจเริ่มส่งสัญญาณลด QE ช่วงไตรมาส 3/2564 พร้อมแนะจัดพอร์ตรับความผันผวน

        นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (Mr.Komsorn Prakobphol, Head of Economic Strategy Unit, TISCO Economic Strategy Unit : TISCO ESU) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลกเคลื่อนไหวผันผวน เพราะนักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่ออกมาสูงกว่าหลายฝ่ายประเมินไว้

        โดยในเดือนเมษายน 2564 อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline CPI) ของสหรัฐฯ ได้เร่งตัวขึ้นเป็น 0.8% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน นับเป็นอัตราเงินเฟ้อที่สูงสุดนับตั้งแต่กลางปี 2552

        อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้มองว่า เงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นจนกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกในรอบนี้จะเป็นเพียงปัจจัยลบชั่วคราว เพราะปัจจัยหลักที่หนุนให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นเร็วกว่าคาดเป็นผลมาจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เป็นสำคัญ โดยราคาสินค้าในหมวดที่เกี่ยวเนื่องกับการเปิดเศรษฐกิจ (Reopening) เพิ่มขึ้นอย่างมาก เช่น ตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ค่าขนส่ง และค่าเข้าชมการแข่งขันกีฬา และรถยนต์มือสอง 

        อีกทั้งในระยะยาว อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นได้อย่างจำกัด เนื่องจากอุปสงค์รวม (Aggregate Demand) ของเศรษฐกิจโลกยังอ่อนแอ โดย GDP โลกยังอยู่ต่ำกว่าจุดสูงสุดเดิมในปี 2552 อยู่พอสมควรและต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าอุปสงค์จะฟื้นตัวไปที่ระดับเดิม โดยหากพิจารณาจากอัตราการใช้กำลังการผลิต (Capacity Utilization) ของสหรัฐฯ จะพบว่าอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2533 เป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันให้อัตราเงินเฟ้อลดลงมาอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่องในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา และอัตราการใช้กำลังการผลิตในปัจจุบันที่อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบหลายสิบปี ชี้ให้เห็นว่ายังมีกำลังการผลิตส่วนเกินเหลือในระบบเศรษฐกิจมากเพียงพอที่จะตอบสนองต่อความต้องการบริโภคไปได้อีกหลายปี

        นอกจากนี้ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนบางส่วนกังวลต่อแรงกดดันเงินเฟ้อที่จะเพิ่มขึ้นตามมา แต่ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้มองว่าประเด็นนี้ก็ยังไม่เป็นที่น่ากังวลมากนัก เนื่องจาก การเพิ่มขึ้นในรอบนี้เป็นการเพิ่มขึ้นจากระดับต่ำในปีที่แล้ว และราคาสินค้าโภคภัณฑ์นั้นแทบไม่ได้เพิ่มขึ้นเลยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยดัชนีราคาผู้ผลิตในหมวดสินค้าโภคภัณฑ์ ในปัจจุบันอยู่สูงกว่าจุดสูงสุดในปี 2551 เพียง 5% เท่านั้น อีกทั้ง ราคาที่เพิ่มขึ้นในครั้งนี้จะเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว ตามอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศ ในขณะที่ปริมาณสินค้าคงคลังอยู่ในระดับต่ำ 

        อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวปัจจัยเหล่านี้จะเริ่มมีผลลดลงและทำให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงกลับสู่แนวโน้มปกติในปีหน้า  ซึ่งอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงกลับสู่แนวโน้มปกติจะทำให้ Fed สามารถทยอยถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างช้าๆ โดยไม่ส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อตลาด 

        โดยศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้มองว่า Fed จะเริ่มส่งสัญญาณถึงการลดการอัดฉีดสภาพคล่องในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ เพื่อให้ตลาดรับรู้ก่อนที่จะเริ่มดำเนินการจริงในปีหน้า โดย Fed จะทยอยลดการซื้อสินทรัพย์จากปัจจุบันที่ 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน เหลือเดือนละ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ จนหมดในช่วงปลายปี ก่อนจะประกาศขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในช่วงกลางปี 2566 ซึ่งในช่วงที่ Fed เริ่มส่งสัญญาณอาจจะทำให้ตลาดหุ้นผันผวนอีกครั้ง ดังนั้น จึงแนะนำให้นักลงทุนจัดพอร์ตการลงทุนเพื่อเตรียมรับความผันผวนที่จะเกิดขึ้น

Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่จำเป็นคือสิ่งที่สำคัญสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ ทำให้คุณสามารถใช้งานและเรียกดูเว็บไซต์ได้ตามปกติ คุณไม่สามารถปิดการใช้งานคุกกี้เหล่านี้ในระบบของเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า