ถอดรหัสหุ้นแบรนด์ดังระดับโลก ธุรกิจแบบไหนน่าลงทุน

อยากลงทุนในหุ้นแบรนด์ดังระดับโลก ที่เติบโตได้ในระยะยาว ไม่หวั่นปัจจัยลบเรื่องเงินเฟ้อ และวิกฤตที่เข้ามาแบบไม่คาดฝัน !?! ต้องเป็นแบรนด์ที่มีคุณสมบัติอย่างไร ถึงจะตอบโจทย์ได้ ???

        ธีมการลงทุน “แบรนด์ดังระดับโลก” ถูกพูดถึงและได้รับความสนใจมาอย่างต่อเนื่อง โดยนักลงทุนคาดหวังว่า แบรนด์ที่ทรงพลัง จะมีแต้มต่อเหนือธุรกิจทั่วไป ซึ่งเป็นผลมาจาก “เอกลักษณ์” ที่โดดเด่น ทั้งในด้านคุณภาพ หรือแม้กระทั่งจากความนิยมชื่นชอบที่ผู้บริโภคมีต่อสินค้าหรือบริการ จนยากจะหาแบรนด์อื่นมาทดแทน ส่งผลให้แบรนด์เหล่านี้มีความสามารถในการกำหนดราคา และมีความสามารถในการแข่งขันสูง จนกลายเป็นเจ้าตลาด

        ด้วยเหตุนี้เอง แบรนด์ระดับโลกที่มีความแข็งแกร่ง จึงมีส่วนแบ่งการตลาดที่สูง มีงบการเงินที่ดี และมีแนวโน้มการเติบโตของรายได้และกำไรในระดับสูง พร้อมฝ่าปัจจัยลบ ทั้งเงินเฟ้อ การเมืองระหว่างประเทศ ความผันผวนจากการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา และข่าวลบต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

        แต่!!! ก่อนจะลงทุน ก็จำเป็นจะต้องถอดรหัสให้ลึกยิ่งขึ้นว่า แบรนด์ดังระดับโลกนั้นๆ สามารถตอบโจทย์การเติบโตได้ในระยะยาวจริงหรือเปล่า … เพราะนั่นจะเป็นคำตอบได้ดียิ่งขึ้นว่าแบรนด์ในแบบที่คุณชื่นชอบ น่าลงทุนอย่างที่คิดจริงไหม?

เจาะ 3 ประเด็น...หนุนแบรนด์ดังเติบโตระยะยาว

        1. ตอบโจทย์การสร้างความยั่งยืนให้โลกอนาคต (Go Sustianability)

        นับจากนี้ไปจนถึงอนาคต แบรนด์ที่สามารถตอบโจทย์เรื่องการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social, Governance : ESG) จะมีโอกาสในการเติบโตที่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากคนไทยยุคนี้ ที่เริ่มตระหนักถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ ดังนั้น นี่จึงเป็นสัญญานที่บ่งบอกได้ว่า แบรนด์ต่างๆ ที่มีสินค้า และผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ในประเด็นนี้ ก็จะได้รับความสนใจจากผู้บริโภค

 

        2. ตอบโจทย์การเติบโตของชนชั้นกลางในเอเชีย (Go Asia)

        ชนชั้นกลางของเอเชีย จะเป็นกลุ่มคนที่มีบทบาททางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเห็นได้จากการใช้จ่ายของชนชั้นกลางในประเทศจีนที่ขยายตัวต่อเนื่อง และหากเจาะลึกลงไปจะพบว่า ประชากรจีน กลุ่ม Generation Y ที่เกิดระหว่างปี 2523 – 2539 ซึ่งปัจจุบันคือกลุ่มคนที่เพิ่งจบการศึกษาและอยู่ระหว่างวัยเริ่มทำงาน รวมถึง Gen Z หรือผู้ที่เกิดระหว่างปี 2540 – 2555 ที่มีกำลังซื้อ จะเป็นกลุ่มหลักที่จับจ่ายสินค้า Luxury และคาดว่าแนวโน้มนี้จะเกิดขึ้นกับประเทศเอเชียอื่นๆ ด้วย1

 

        3.ตอบโจทย์เทรนด์โลกดิจิทัล (Go Digital)

        โลกของเราได้ก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างรวดเร็ว และหลังจากนี้จะยิ่งตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้นจากกระแสตื่นตัวในเรื่อง Metaverse ที่จะเป็นปัจจัยเร่งให้ธุรกิจต่างๆ พัฒนาสินค้า และบริการให้ตอบโจทย์กับผู้ซื้อยิ่งขึ้น โดยในเดือน ธ.ค. 2021 แบรนด์ระดับโลกอย่าง Nike ก็ได้ขยับตัวเข้าสู่โลก Metaverse แล้ว ด้วยการประกาศตัวเข้าซื้อกิจการรองเท้าผ้าใบเสมือนจริงและแบรนด์ RTFKT เพื่อเป็นการยืนยันความสนใจของ Nike ในการเป็นผู้มีส่วนร่วมของโลกเสมือนจริงใน Metaverse2 …ดังนั้น

        นับตั้งแต่นี้ไป แบรนด์ที่ปรับตัวสู่โลกดิจิทัล ก็จะมีโอกาสอยู่ในสายตาของผู้บริโภคที่หันมาใช้ช่องทางนี้มากขึ้น

หุ้นแบรนด์ระดับโลกน่าสนใจ...มีอะไรบ้าง ?

        “แบรนด์ระดับโลก” ที่ตอบโจทย์ การ Go Sustianability, Go Asia และ Go Digital มี 3 กลุ่มที่น่าสนใจ ก็คือ

        1. หุ้นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก (Global Brand) จัดอยู่ในกลุ่ม “หุ้นคุณค่า” ซึ่งมีรายได้และกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่องตามศักยภาพในการแข่งขัน และความสามารถในการกำหนดราคาที่สูงกว่าธุรกิจทั่วไป มีงบการเงินที่แข็งแกร่งและครองส่วนแบ่งการตลาดในระดับสูง

        ยกตัวอย่างเช่น Hermes ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องหนัง น้ำหอมและแฟชั่น ของฝรั่งเศส ซึ่งมีการบริหารจัดการภายในครอบครัวมากกว่า 200ปี เป็นแบรนด์สินค้ามือสองราคาแพงกว่าสินค้าใหม่ เนื่องจากมีการผลิตสินค้าจำนวนจำกัด และรอบการรอคอยสินค้าที่ยาวนาน

        ด้วยความที่ Hermes เป็นแบรนด์ระดับโลกที่ได้รับการยอมรับอย่างมาก จึงส่งผลให้ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (2011-2021) อัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ในด้านรายได้ อยู่ที่ +12.5% ขณะที่ CAGR ด้านกำไรสุทธิ ในช่วงเวลาเดียวกัน +15.0%3

1643680209336

        2.หุ้นเติบโต (Upcoming Brands) เป็นกลุ่มที่มีโอกาสสร้างรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด

        เพราะส่วนใหญ่เป็นสินค้าและบริการด้านนวัตกรรมที่เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และกำลังกินส่วนแบ่งทางการตลาดจากแบรนด์ขนาดใหญ่

        ยกตัวอย่างเช่น PROYA ผู้นำแบรนด์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสัญชาติจีน ก่อตั้งมานานกว่า 16 ปี โดยมีผลิตภัณฑ์หลากหลายระดับราคา ตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวจีนตั้งแต่กลุ่มนักศึกษา กลุ่มคนทำงาน และกลุ่มผู้ต้องการผลิตภัณฑ์ดูแลผิวคุณภาพสูง

        โดย PROYA ได้ทำการตลาด และจำหน่ายในหลากหลายแพลตฟอร์ม เช่น Tmall / Taobao ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้บริโภคชาวจีนเป็นอย่างดี โดยในช่วงไตรมาส 3 / 2021 บริษัทสามารถผลักดันให้มียอดขายเติบโตอย่างก้าวกระโดดอยู่ทีเฉลี่ย 46% เพิ่มขึ้นจาก 16 เดือนก่อนหน้า (February 2020 – May 2021) ซึ่งมียอดขายเฉลี่ยที่ 12%4

        ไม่เพียงเท่านี้ ในแพลตฟอร์มอื่นอย่าง Tiktok ช่วงวันคนโสดในปี 2021 PROYA ก็สามารถสร้างปรากฏการณ์ทำยอดขายติดอันดับ Top 15 ในแพลตฟอร์ม Tiktok ได้อีกด้วย5

1643613652358 1

        3. หุ้นของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล (Digital Brands)

        ตัวอย่างบริษัทที่น่าสนใจในกลุ่มนี้คือ ADOBE บริษัท Software ที่ก่อตั้งในปี 1982 ซึ่งแต่เดิมนั้นได้ขายโปรแกรมในรูปแบบธรรมดา ก่อนที่จะพลิกการทำธุรกิจครั้งสำคัญในปี 2011 มาเป็นการให้บริการในรูปแบบ Cloud ทำให้รายได้ที่มาจากการการสมัครสมาชิก (Subscription)

        สร้างการเติบโตให้กับบริษัท อย่างก้าวกระโดด6 โดยบริการหลักของ Adobe แบ่งออกเป็น Creative Cloud, Document Cloud, Experience Cloud ครอบคลุมความต้องการใช้งานโปรแกรมในทุกรูปแบบ

1643613748882

        อย่างไรก็ตาม เพื่อลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทน การลงทุนในหุ้นแบรนด์ระดับโลก จึงจำเป็นที่จะต้องกระจายการลงทุนให้ในแบรนด์ระดับโลกให้หลากหลายยิ่งขึ้น …ซึ่งการลงทุนผ่านกองทุนรวม ที่มีนโยบายกระจายการลงทุนในแบรนด์ระดับโลกหลากหลายหมวดหมู่ ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีต/ผลกการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต

ลงทุน TBRAND ตอบโจทย์ แบรนด์ทรงพลังแห่งอนาคต

        นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ลูกค้า บลจ.ทิสโก้ได้เปิดเสนอขาย กองทุนเปิด ทิสโก้ World Brands (TBRAND) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) เน้นลงทุนในบริษัทที่เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า (Brand) ชั้นนำในตลาดและมีคุณค่าเหนือระดับ บริษัทที่นำเสนอผลิตภัณฑ์และการบริการที่มีชื่อเสียง มีคุณภาพสูงและให้ความหรูหรา หรือบริษัทที่มีรายได้ส่วนใหญ่จากการโฆษณาประชาสัมพันธ์ การจัดหาสินค้าและบริการ การผลิตสินค้าและบริการ หรือการจัดหาเงินทุนที่เกี่ยวข้องกับเครื่องหมายการค้า (Brand) ผ่านหน่วยลงทุนของกองทุน LO Funds – World Brands ชนิดหน่วยลงทุน Syst. NAV Hdg, (USD) N (กองทุนหลัก) บริหารและจัดการโดย Lombard Odier Funds (Europe) S.A. ลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท เปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) วันที่ 1 – 9 กุมภาพันธ์ 2565

        สำหรับจุดเด่นของกองทุน TBRAND คือได้กระจายการลงทุนไปยังหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมที่ “แบรนด์” มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค เช่น กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย กลุ่มการเงิน กลุ่มเทคโนโลยี เป็นต้น อีกทั้งยังผสมผสานระหว่างหุ้นคุณค่า หุ้นเติบโต และหุ้นดิจิทัลไว้ด้วยกัน โดยกลุ่มแรกที่กองทุนหลักเน้นลงทุน คือ หุ้นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก (Global Brand) เช่น Hermes, Nestle และ Ferrari เป็นต้น

        นอกจากนี้ กองทุนหลักยังลงทุนในบริษัทเจ้าของแบรนด์สินค้าซึ่งเป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคในระดับหนึ่ง (Upcoming Brand) เช่น PROYA ผู้นำแบรนด์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสัญชาติจีน และ lululemon ผู้นำแบรนด์เครื่องแต่งกายกีฬาสัญชาติแคนาดา เป็นต้น และเพื่อให้ผลตอบแทนเติบโตไปตามเมกะเทรนด์ของโลกยังลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับดิจิทัล (Digital Brand) รวมถึงหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเมตาเวิร์สด้วย เช่น Adobe, Microsoft, เป็นต้น

        โดยจุดเด่นของกองทุนนี้คือการผสานหลากหลายธุรกิจไว้ด้วยกัน และยังช่วยจัดพอร์ตหุ้นเติบโตและหุ้นคุณค่าไว้ในกองทุนเดียว โดยผู้จัดการกองทุนมีความเชี่ยวชาญในการคัดเลือกหุ้นแบรนด์ชั้นนำ ด้วยประสบการณ์ในการบริหารกองทุนนี้มากว่า 13 ปี มีวิธีการคัดเลือกหุ้นที่เข้มข้นจากการคัดกรองหุ้นที่คาดว่าจะเป็นแบรนด์ทรงคุณค่าในระยะ 10 ปีข้างหน้า โดยเป็นกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเมตาเวิร์สและดิจิทัล และกลุ่มธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากการจับจ่ายใช้สอยของคนเอเชียโดยเฉพาะการใช้จ่ายของชาวจีน

        นอกจากนี้ ผู้จัดการกองทุนสามารถปรับสัดส่วนของหุ้นในกลุ่ม Global Brand, Upcoming Brand และ Digital Brand ได้อย่างอิสระเพื่อให้เหมาะสมตามแต่ละสถานการณ์ ขณะที่การกระจายการถือหุ้นในพอร์ตข้อมูล จาก Lombard Odier Investment Managers ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2564 พบว่า ผู้จัดการกองทุนหลักจะโฟกัสกับการลงทุนในหุ้นเพียง 30-60 ตัว และแต่ละตัวจะถือในสัดส่วนไม่เกิน 5% ของพอร์ตลงทุน และหุ้น 10 อันดับแรกจะถือไม่เกิน 50%

        ของพอร์ตลงทุน ซึ่งการกระจายน้ำหนักการถือหุ้นนี้จะช่วยกระจายความเสี่ยงและช่วยลดความผันผวนของพอร์ตรวมได้

        พิเศษ สำหรับลูกค้าที่ลงทุนในกองทุน TBRAND ตั้งแต่วันที่ 1-9 กุมภาพันธ์ 2565 บลจ.ทิสโก้ลดค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end Fee) 33% ของมูลค่าซื้อขาย จากปกติ 1.5% ของมูลค่าซื้อขาย ลดเหลือ 1% ของมูลค่าซื้อขาย

        ทั้งนี้ กองทุนเปิด TBRAND อาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในต่างประเทศ จึงมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม ผู้สนใจลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุนและสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 2633 6000 กด 4, 0 2080 6000 กด 4 และ www.tiscoasset.com หรือ แอปพลิเคชัน TISCO My Funds

ที่มา

1. “การเติบโตของชนชั้นกลางในเอเชีย โดยเฉพาะการใช้จ่ายของชาวจีน” ,Lombard Odier Funds

2. “Nike ขยายกิจการสู่ metaverse ซื้อโรงงาน RTFKT ทำรองเท้าในโลกเสมือน” , https://mgronline.com/stockmarket/detail/9640000123601

3.รายได้และกำไรสุทธิ Hermes(2021 Analys day Presentation), https://finance.hermes.com/en/publications

4.”ยอดขายบน Tmall และ Taobao”, Taosj.com,Data Conplied by Goldman Sachs Global Investment Research

5.”ยอดขาย PROYA บนTiktok”,Guoji, Taosj.com,Data Conplied by Goldman Sachs

6.“รายได้ที่มาจากการการสมัครสมาชิก (Adobe 2021 financial analyst meeting slides)”, www.adobe.com/investor-relations.html

Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่จำเป็นคือสิ่งที่สำคัญสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ ทำให้คุณสามารถใช้งานและเรียกดูเว็บไซต์ได้ตามปกติ คุณไม่สามารถปิดการใช้งานคุกกี้เหล่านี้ในระบบของเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า