ในการซื้อสินค้าหรือบริการใดๆก็ตาม มักจะมีเครื่องหมายดอกจัน ( * )ต่อท้าย เพื่อระบุเงื่อนไขหรือข้อตกลงเพิ่มเติมให้ลูกค้าทราบ ซึ่งลูกค้าหลายท่านไม่ให้ความสนใจที่จะดูรายละเอียดเหล่านี้เพิ่มเติมเท่าไหร่ แต่ทุกคนทราบไหมคะว่าสิ่งนี้สำคัญเป็นอย่างมาก ที่จะทำให้ลูกค้าได้ประโยชน์หรือเสียสิทธิประโยชน์ในเวลาเดียวกันเลยค่ะ
เช่นเดียวกันกับการซื้อประกันสุขภาพรวมถึงประกันประเภทอื่นๆ เครื่องหมายดอกจัน ( * )หรือเงื่อนไขที่ระบุไว้ เป็นข้อความที่ลูกค้าต้องอ่านศึกษา ทำความเข้าใจอย่างดีก่อนตกลงซื้อประกันนั้นๆ
ดอกจัน ( * ) หรือเงื่อนไข ในประกันสุขภาพมีอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ

ดอกจัน(*) 1 : ประกันสุขภาพไม่ได้เริ่มคุ้มครองทันที มี waiting period
การซื้อประกันสุขภาพเราจะยังเคลมไม่ได้ในทันที โดยจะมีระยะเวลารอคอย เพื่อที่บริษัทประกันต้องการดูว่าเราป่วยเป็นโรคมาก่อนทำประกันหรือไม่นั่นเอง และโดยทั่วไปกรมธรรม์ก็จะกำหนดระยะเวลารอคอยตั้งแต่ 30 – 120 วัน แล้วแต่โรคและข้อกำหนดของตัวประกันนั้นๆ

ดอกจัน(*) 2 : ประกันสุขภาพจะไม่คุ้มครองโรคที่เราเป็นมาก่อนทำประกัน
ใครที่รู้ตัวว่ามีโรคประจำตัวหรือโรคเรื้อรังมาก่อน แม้ตอนซื้อประกันจะไม่แสดงอาการ แต่หากภายหลังเจ็บป่วยด้วยโรคนั้นๆ ไม่ว่าจะพ้นระยะเวลารอคอยหรือไม่? ประกันก็มีสิทธิที่จะไม่คุ้มครองโรคนั้นๆได้ค่ะ

ดอกจัน(*) 3 : มีข้อยกเว้นไม่คุ้มครองโรคบางโรค เช่น การรักษาเกี่ยวกับความสวยความงาม
การเข้ารับการรักษาพยาบาลที่มีสาเหตุมาจากการทำศัลยกรรมหรือเสริมความงาม บริษัทประกันจะไม่คุ้มครอง เนื่องจากไม่ใช่การรักษาโรคตามปกติ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงค่าคลอดบุตร การรักษาเพื่อการมีบุตร และการรักษาที่ไม่ใช่แพทย์แผนปัจจุบันด้วย ผู้เอาประกันต้องอ่านให้เคลียร์นะคะ

ดอกจัน(*) 4 : ไม่ต้องตรวจสุขภาพ ไม่ได้หมายความว่าจะกรอกอะไรก็ได้ ต้องแถลงข้อมูลตามความเป็นจริงด้วย
ในการซื้อประกันเราจะต้องแถลงข้อมูลสุขภาพที่เป็นจริงและถูกต้องให้กับบริษัทประกันทราบ หากตั้งใจปดปิดหรือบริษัทประกันทราบในภายหลังจากที่ทำประกันสุขภาพ บริษัทประกันมีสิทธิ์ไม่จ่ายค่าเงินชดเชย ค่ารักษาพยาบาลได้ ไปจนถึงการยกเลิกสัญญาประกันสุขภาพได้เช่นเดียวกันค่ะ

ดอกจัน(*) 5 : ต่อครั้ง/ต่อโรค/เหมาจ่าย/เหมารวม/ อ่านให้เคลียร์และทำความเข้าใจ
เพราะประกันสุขภาพทุกฉบับมีเงื่อนไขและเงื่อนไขเหล่านี้มีผลกับค่าเบี้ยประกันในแบบแผนที่เราจะตัดสินใจเลือกซื้อด้วย เพราะนี้คือผลประโยชน์ของค่าใช้จ่ายโดยตรง
ยกตัวอย่าง เช่น กรณีเจ็บป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ด้วยโรค A และมีค่ารักษาพยาบาลในบิลครั้งนั้น 100,000 บาท
> แบบประกันเหมาจ่าย 500,000 ต่อปี เบิกได้เต็ม 100,000 บาท เหลือวงเงิน 400,000 บาท จนครบอายุกรมธรรม์ต่อปี
> แบบประกันเหมาจ่าย 500,000 ต่อครั้ง เหลือวงเงิน 400,000 บาท ในการเข้ารับการรักษาด้วยโรค A ภายใน 90 วัน (โรคเดิม) แต่หากเข้ารับการรักษาด้วยใหม่ หรือโรค A หลังจาก 90 วัน จะมีวงเงินใหม่ 500,000 บาท เพราะเป็นการเบิกต่อครั้ง ส่วนจะเบิกได้กี่ครั้งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขกรมธรรม์
การเลือกประกันแต่ละแบบมีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกแบบไหน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และปัจจัยของแต่ละคนนะครับ
ข้อแนะนำ ทุกดอกจัน* มีความสำคัญ อย่าลืมว่า! หากเราไม่อ่าน ไม่เคลียร์ และไม่ทำความเข้าใจกับเงื่อนไขของประกันแต่ละแบบ แล้วตัดสินใจซื้อ อาจทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนได้เช่นกัน เพราะเมื่อถึงเวลาเคลมประกันภายหลังอาจมีประเด็นตามมาได้นั่นเองค่ะ
นี่จึงเป็นที่มาว่าทำไม TISCO Insure ถึงย้ำกับทุกท่านเสมอว่า การตัดสินใจซื้อประกันทุกรูปแบบ เราควรศึกษาเงื่อนไขและความคุ้มครองให้แน่ชัด ถ้าไม่แน่ใจว่า ประกันแบบไหนดี? แบบไหนเหมาะกับเรา? สามารถ Inbox หรือแอดไลน์มาสอบถามพูดคุยกับแอดมินได้เลย เรายินดีให้คำปรึกษาเรื่องประกันภัยกับทุกท่านค่ะ
สำหรับลูกค้าทิสโก้อินชัวร์ อยู่ที่ไหนก็ดูข้อมูลกรมธรรม์ประกันภัยได้ แค่ลงทะเบียนผ่าน Line@tiscoinsure