โพสต์เมื่อ 8 กรกฎาคม 2564 | TISCOASSET
ผ่านไปแล้วหนึ่งปีกว่าหลังจากที่มีการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ซึ่งการแพร่ระบาดนั้นกระจายเป็นวงกว้าง โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันในประเทศจีนขึ้นไปทำสถิติสูงสุดที่ 14,108 ราย ในวันที่ 12 ก.พ. 2020 และหลังจากวันนั้นเพียง 2 เดือน รัฐบาลจีนก็สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้อยู่หมัด ยุติการล็อคดาวน์เมืองอู่ฮั่น ได้ตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย. 2020 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นให้เศรษฐกิจจีน กลับมาเริ่มฟื้นตัวได้ก่อนใครในโลก
วันนี้เราจะนำพาทุกท่านไปค้นหาเหตุผลว่า ทำไม บลจ.ทิสโก้ จึงมองว่า ณ เวลานี้ถึงได้เป็น “โอกาสทองแห่งปี 2021 ในการจับจังหวะลงทุนในหุ้นจีนผ่านดัชนี H shares”
คาดเศรษฐกิจจีนมีโอกาสฟื้นตัวต่อ เนื่องจากการกระตุ้นผ่านนโยบายคลังในครึ่งปีหลัง
เศรษฐกิจจีนเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกในปี 2020 โดยเฉพาะการส่งออก ที่สามารถขยายตัวได้ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งดัชนี Composite PMI ก็สามารถขยายตัวเหนือระดับ 50 จุด ติดต่อกันเป็นเวลา 14 เดือน จนกระทั่งในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2021 เศรษฐกิจจีนเริ่มส่งสัญญาณชะลอลงบ้าง จากแรงซื้อสินค้าส่งออกที่มีความต้องการลดลง เช่น สินค้าในกลุ่ม Healthcare และ อิเล็กทรอนิกส์ ประกอบกับ รัฐบาลเองไม่ได้ต้องการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมากนักในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา
แต่ครึ่งปีหลัง 2021 จะเปลี่ยนไป….. เราคาดว่ารัฐบาลจีนจะกลับมาใช้นโยบายการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจในครั้งนี้ เพื่อรักษาโมเมนตัมในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจให้เป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง หากพิจารณาจากโควต้าการออกพันธบัตรรัฐบาลท้องถิ่น ตามภาพ 1.1 พบว่าปี 2021 มีการใช้โควต้าไปเพียง 20% ของโควต้าทั้งหมดเท่านั้น ซึ่งเมื่อเทียบกับ ปี 2019 และ 2020 ในช่วงเดือนเดียวกัน ยังถือว่าน้อยกว่ามาก ด้วยเหตุนี้อาจทำให้รัฐบาลมีการเร่งออกพันธบัตรท้องถิ่นในช่วงที่เหลือของปี นำไปสู่การใช้จ่ายด้านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงาน และ กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ
ภาพ 1.1 รัฐบาลยังใช้โควต้าพันธบัตรท้องถิ่นไปเพียง 20% คาดว่าจะเร่งออกพันธบัตรท้องถิ่นในช่วงที่เหลือของปี
source : Bloomberg,TISCO Economic Strategy Unit (ESU)
ประเทศจีนจะมีโอกาสเกิดภูมิคุ้มกันกลุ่ม(Herd Immunity) ภายในไตรมาส 3 ปี 2021
ความเข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาดของประเทศจีนนั้น ถือเป็นกุญแจสำคัญ ที่ทำให้เศรษฐกิจจีนกลับมาพลิกฟื้นได้ก่อนประเทศอื่นๆ ถึงแม้ว่าจากงานวิจัยหลายแห่งจะระบุถึงประสิทธิภาพวัคซีนไม่สูงมากนักก็ตาม ปัจจุบันจีนตรวจพบผู้ติดเชื้อรายวันเฉลี่ย 7 วันย้อนหลังเพียง 16 รายเท่านั้น(as of 4 ก.ค.21) อีกทั้งในงานเฉลิมฉลองวันชาติจีนมีผู้เข้าร่วมงานหลายหมื่นคนโดยไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากถือว่าเป็นบทพิสูจน์ชัดเจน และกุญแจดอกสุดท้ายที่จะทำให้เศรษฐกิจจีนสามารถฟื้นตัวและเติบโตไปได้อย่างต่อเนื่องได้นั้น คือ ประสิทธิภาพในการแจกจ่ายวัคซีน
ปัจจุบันมีการแจกจ่ายวัคซีนไปแล้วมากกว่า 1 พันล้านโดส หรือคิดเป็น 36.8% ของประชากร ซึ่งหากยังคงรักษาความเร็วการแจกจ่ายวัคซีนที่ 18 ล้านโดสต่อวันเช่นนี้ไว้ได้ จีนจะสามารถมีภูมิคุ้มกันหมู่ได้ภายในไตรมาส 3 นั่นหมายความว่าอีกไม่เกิน 3 เดือน ประชาชนชาวจีน จะสามารถกลับมาทำกิจกรรมต่างๆได้เป็นปกติมากขึ้น ธุรกิจด้านการท่องเที่ยว และ สันทนาการ จะกลับมาเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบได้อีกครั้ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นจุดเริ่มต้นให้การบริโภคภายในประเทศจีนกลับมาเริ่มมาคึกคักได้ในช่วงที่เหลือของปี
ภาพ 1.2 จีนยังคงควบคุมผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนการกระจายวัคซีนเร่งตัวขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา
Note:*Assumes 65% of people have been vaccinated with 2 doses; 166 million does needed. (data as of June 6)
Bloomberg,TISCO Economic Strategy Unit (ESU)
ภายหลังจากโควิด-19 หุ้นจีน H-shares ยังปรับตัวขึ้นไม่มาก และมีระดับ valuation ที่น่าสนใจ
หากพิจารณาจากดัชนี HSCEI ซึ่งเป็นตัวแทนของหุ้นจีน H-shares จะเห็นว่าช่วงเดือน มี.ค.20 ราคาปรับตัวลงค่อนข้างแรง สอดคล้องกับประเทศอื่นๆ แต่ในขณะที่ประชาชนทั่วโลกเริ่มคลายความกังวลในเรื่องการแพร่ระบาด ประกอบกับการค้นพบวัคซีน ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกรีบาวด์กลับมาได้ค่อนข้างแรง มีเพียงดัชนี HSCEI ที่ยังปรับตัวขึ้นมาไม่มาก เมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ด้วยกัน
ภาพ 1.3 ดัชนี HSCEI ยังคงให้ผลตอบแทน -6.96% ตั้งแต่ต้นปี ขณะที่ ดัชนี S&P 500 +34.33% ,TOPIX +12.87% และ EUROSTOXX 50 +8.04%
source : tradingview 30 ธ.ค.19 – 2 ก.ค. 21
ทั้งนี้ หากพิจารณาถึงระดับ Valuation ของดัชนี HSCEI พบว่า อยู่ในระดับที่ถูกกว่าภูมิภาคอื่นๆ โดย consensus คาดการณ์ ค่า Fwd P/E ปี 2021 อยู่ที่ 11.5 เท่า และในปี 2022 ที่ 10.3 เท่า ซึ่งถือว่ามี Valuation ค่อนข้างน่าสนใจในการจับจังหวะเข้าลงทุน
ภาพ 1.4 consensus คาดการณ์ ค่า Fwd P/E ปี 2021 อยู่ที่ 11.5 เท่า และในปี 2022 ที่ 10.3 เท่า
source : goldman sachs as of 2 ก.ค. 21
ดังนั้น ด้วยโอกาสที่เศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องจากนโยบายการคลังในครึ่งปีหลัง ความเป็นไปได้ที่จีนจะเกิดภูมิคุ้มกันกลุ่ม(Herd Immunity) ภายในไตรมาส 3 ปี 2021 ประกอบกับจังหวะที่หุ้นจีน H shares ยังปรับตัวขึ้นมาไม่มาก และยังมีระดับ Valuation ที่น่าสนใจ บลจ.ทิสโก้ จึงขอเสนอ กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า อิควิตี้ ทริกเกอร์ 5M#4 (TCHT5M4)ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) กองทุนรวมตราสารทุนเน้นการลงทุนในหน่วยลงทุน Hang Seng China Enterprises Index ETF ที่มีการกระจายการลงทุนในหุ้นประมาณ 40 ตัว โดยมีเป้าหมายทำผลตอบแทนให้ได้ 5% ในกรอบระยะเวลา 5 เดือน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ในช่วงเวลา 5 เดือนได้ ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก กองทุน TCHT5M4 เปิดเสนอขายครั้งแรกวันที่ 8-13 กรกฎาคม 2021
ทั้งนี้ กองทุนเปิด TCHT5M4 อาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในต่างประเทศ จึงมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม โดยการกำหนดเป้าหมาย 10.50 บาทต่อหน่วย ไม่ใช่การรับประกันผลตอบแทน ในช่วงระยะเวลา 5 เดือนแรก ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ หากหน่วยลงทุนมีมูลค่าไม่เป็นไปตามเป้าหมายภายในระยะเวลาที่กำหนด ผู้ลงทุนสามารถซื้อ/ขาย/สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ โดยที่เป้าหมายที่เป็นเหตุให้เลิกโครงการยังคงดำเนินอยู่ต่อไป ซึ่งเป้าหมายเลิกโครงการเป็นเป้าหมายก่อนหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง(ถ้ามี) ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 2633 6000 กด 4, 0 2080 6000 กด 4 และ www.tiscoasset.com หรือ แอปพลิเคชัน TISCO My Funds
ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้า
- Tel : 0 2633 6000 กด 4 หรือ 0 2080 6000 กด 4
- Application : TISCO My Funds
- Website : www.tiscoasset.com
© สงวนลิขสิทธิ์ 2561 ธนาคารทิสโก้ จำกัด มหาชน