ลูกค้าบุคคล
ลูกค้า SME
ลูกค้าธุรกิจ
ลูกค้า Wealth
นักลงทุนสัมพันธ์
ทิสโก้ ไฟแนนเชียลกรุ๊ป
ค้นหาสาขา
TH
EN
เงินฝาก
เงินฝาก
ออมทรัพย์
บัญชีเงินฝากพื้นฐาน
ออมทรัพย์พิเศษ
ซุปเปอร์ออมทรัพย์
ออมทรัพย์ TISCO My Savings
ออมทรัพย์ไดมอนด์
ออมทรัพย์บลูไดมอนด์
กระแสรายวัน
กระแสรายวันพิเศษ
ฝากประจำ
ปลอดภาษี
ลงทุน
ลงทุน
ซื้อขายหลักทรัพย์
ซื้อขายอนุพันธ์
ซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ
กองทุนรวมธนาคารทิสโก้
กองทุนรวม บลจ.ทิสโก้
ลงทุน SSF / RMF บลจ.ทิสโก้
สินเชื่อ
สินเชื่อ
สินเชื่อบ้าน
สินเชื่อบ้านแลกเงิน
สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านแลกเงิน
สมหวัง โฉนดแลกเงิน
สินเชื่อรถใหม่
สินเชื่อรถมือสอง
สินเชื่อทะเบียนรถ
สินเชื่อเพื่อข้าราชการบำนาญ
ประกัน
ประกัน
ประกันชีวิต
ประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง
ประกันรถยนต์
ประกันอุบัติเหตุ
ประกันภัยเพื่อที่อยู่อาศัย
ประกันตามไลฟ์สไตล์
ชำระเบี้ยประกันภัย
บริการ
บริการธนาคาร
บริการทิสโก้พร้อมเพย์
บัตร ATM TISCO
บริการ TISCO Alert
TISCO My Wealth
บริการ LINE Official
TISCO My Car
บริการรับชำระเงิน
บริการชำระบิลข้ามธนาคาร
ประกาศขายทรัพย์สิน
ประมูลรถยนต์
e-Service
e-Service
e-Statement
e-Cash Management
e-Invest
e-Trade
e-Provident Fund
Corporate File Transfer
หน้าแรก
เงินฝาก
เงินฝากออมทรัพย์
ออมทรัพย์
ออมทรัพย์บัญชีเงินฝากพื้นฐาน
ออมทรัพย์พิเศษ
ซุปเปอร์ออมทรัพย์
ออมทรัพย์ TISCO My Savings
ออมทรัพย์ไดมอนด์
ออมทรัพย์บลูไดมอนด์
เงินฝากกระแสรายวัน
กระแสรายวัน
กระแสรายวันพิเศษ
เงินฝากประจำ
ฝากประจำ
ปลอดภาษี
ลงทุน
หลักทรัพย์
ซื้อขายหลักทรัพย์
ซื้อขายอนุพันธ์
ซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ
กองทุน
กองทุนรวมธนาคารทิสโก้
กองทุนรวม บลจ.ทิสโก้
SSF / RMF บลจ.ทิสโก้
สินเชื่อ
สินเชื่อบ้าน
สินเชื่อบ้าน
สินเชื่อบ้านแลกเงิน
สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านแลกเงิน
สมหวัง โฉนดแลกเงิน
สินเชื่อรถ
สินเชื่อรถใหม่
สินเชื่อรถมือสอง
สินเชื่อทะเบียนรถ
สินเชื่ออื่นๆ
สินเชื่อเพื่อข้าราชการบำนาญ
ประกัน
ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ (ลดหย่อนภาษี)
ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ
ประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง
ประกันรถยนต์
ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล
ประกันภัยเพื่อที่อยู่อาศัย
ประกันตามไลฟ์สไตล์
ชำระเบี้ยประกันภัย
บริการธนาคาร
บริการทิสโก้พร้อมเพย์
บัตร ATM TISCO
บริการ TISCO Alert
ลูกค้า Wealth
TISCO My Wealth
บริการ LINE Official
TISCO My Car
บริการรับชำระเงิน
บริการชำระบิลข้ามธนาคาร
ประกาศขายทรัพย์สิน
ประมูลรถยนต์
e-Service
e-Statement
e-Cash Management
Corporate File Transfer
ลูกค้า SME
ลูกค้าธุรกิจ
นักลงทุนสัมพันธ์
ทิสโก้ ไฟแนนเชียลกรุ๊ป
ค้นหาสาขา
TH
EN
ข่าวสารและกิจกรรม
ข่าวธนาคาร
ธ.ทิสโก้ชี้เป้า 3 สินทรัพย์ทางรอด สร้างกำไรโค้งสุดท้ายปี 66
โพสต์เมื่อ 08 พฤศจิกายน 2566
ธ.ทิสโก้ชี้เป้า 3 สินทรัพย์ทางรอด สร้างกำไรโค้งสุดท้ายปี 66
ซื้อ! ตราสารหนี้ต่างประเทศ หุ้นเฮลธ์แคร์ ทองคำ
ธนาคารทิสโก้แนะเพิ่มน้ำหนัก 3 สินทรัพย์ ได้แก่ ตราสารหนี้ต่างประเทศ หุ้นเฮลธ์แคร์ และ ทองคำ ชี้มีโอกาสสร้างกำไรท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงโค้งสุดท้ายปี 66 ทั้งสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส อัตราดอกเบี้ยสูง และราคาหุ้นแพง
นายณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสที่ปรึกษาการลงทุนทิสโก้เวลธ์ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)
เปิดเผยว่า ในช่วงที่เหลือของปี 2566 ธนาคารทิสโก้แนะนำให้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการลงทุนใน 3 สินทรัพย์ปลอดภัย คือ 1. ตราสารหนี้ต่างประเทศ 2. หุ้นเฮลธ์แคร์ และ 3. ทองคำ เพราะเป็นสินทรัพย์ที่มีโอกาสสร้างกำไรท่ามกลางปัจจัยกดดันในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งมีอยู่ 3 ประเด็น คือ 1. สงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส 2. อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ระดับสูงเพิ่มความตึงตัวให้กับสภาวะการเงิน กดดันการเติบโตเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า และ 3. ตลาดหุ้นแพง เพราะตลาดคาดการณ์กำไรตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในปี 2567 สูงเกินไป และไม่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ โดย Bloomberg consensus คาดการณ์ว่า ปี 2567 กำไรบริษัทจดทะเบียนสหรัฐฯ จะเติบโต 12% สวนทางกับสภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่คาดว่า ปี 2567 จะเติบโต 1%
สำหรับรายละเอียดสินทรัพย์ที่ธนาคารทิสโก้แนะนำให้ทยอยเข้าลงทุนในช่วงนี้ มีดังนี้
1. ตราสารหนี้ต่างประเทศ
ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ภาคเอกชน ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐฯ ยุโรป และอังกฤษ อายุเฉลี่ยระยะกลางถึงยาว และมีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ AA- ขึ้นไป พร้อมทั้งควรเป็นตราสารหนี้ที่มีอัตราผลตอบแทนเมื่อถือจนครบกำหนดอายุ (YTM) มากกว่า 5% ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยตราสารหนี้ไทยที่อยู่ราว 2.5%
ทั้งนี้ หากปี 2567 เศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณเข้าสู่ภาวะถดถอย จนทำให้ธนาคารกลาง ต้องหันกลับมาลดอัตราดอกเบี้ยลง การลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากสองทางคือ 1. ได้รับอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงเมื่อถือจนครบกำหนดอายุ และ 2. เพิ่มโอกาสรับกำไรจากส่วนต่างด้านราคาหน้าตั๋ว (Capital gain) กว่า 10% สะท้อนให้เห็นว่า ตราสารหนี้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ในระดับสูงและมีความเสี่ยงที่ต่ำ (Low Risk High Return)
2. หุ้นกลุ่มเชิงรับ (Defensive)
เช่น หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ถือเป็นกลุ่มที่รายได้มีความแข็งแกร่ง จากการขายสินค้าจำเป็น ทำให้ความต้องการสินค้าไม่ชะลอตัวลงตามเศรษฐกิจ นอกจากนี้ บริษัทในอุตสาหกรรมนี้ยังมีอำนาจในการปรับขึ้นราคาสินค้า (Pricing Power) และมีความสามารถในการควบคุมต้นทุนในช่วงที่ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น สะท้อนผ่านตัวเลขอัตรากำไร (Profit margin) ที่อยู่ในระดับสูงและมีความสม่ำเสมอ กำไรของธุรกิจเฮลธ์แคร์ จึงมีความแข็งแกร่งกว่าอุตสาหกรรมอื่น สามารถเติบโตได้ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยและเป็นหุ้นกลุ่มที่มักจะสร้างผลตอบแทนชนะตลาดได้ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยทุกครั้งที่ผ่านมาในอดีต
นอกจากนี้ ในปี 2567 หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ถือเป็นกลุ่มที่ “เติบโตสูง ราคาไม่แพง” เนื่องจากนักวิเคราะห์จาก FactSet คาดการณ์ว่ากำไรของหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์จะเติบโตได้สูงถึง 15.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) นับเป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่ากำไรของบริษัทในดัชนี S&P500 ที่มีแนวโน้มขยายตัว 12.2% YoY นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ยังมีมูลค่า (Valuation) ที่ต่ำกว่าภาพรวมตลาด สะท้อนจากค่า อัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรต่อหุ้นปี 2567 (Forward P/E) ที่อยู่เพียงแค่ 17 เท่า ต่ำกว่าดัชนี S&P500 ที่ซื้อขายกันที่ Forward P/E 18 เท่า ทำให้ความเสี่ยงในการลงทุนมีต่ำกว่าหุ้นอุตสาหกรรมอื่นๆ
3.ทองคำ
เมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่แน่นอนในตลาดการเงิน ไม่ว่าจะเป็นภาวะวิกฤติเศรษฐกิจหรือภาวะสงคราม ทองคำยังคงเป็น “Safe heaven” หรือสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งในสภาวะปัจจุบันที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงประกอบกับความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่คาดเดาได้ยาก การกระจายเงินลงทุนบางส่วนไว้ในทองคำ น่าจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีนอกจากนี้ทองคำยังได้รับแรงหนุนจากกระแส De-dollarization หรือการที่ธนาคารกลางทั่วโลก ลดการถือครองดอลลาร์และเพิ่มการถือครองทองคำมากขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่มีความต้องการซื้อทั้งจากบรรดาธนาคารกลางและนักลงทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
หมวดหมู่ข่าว
ข่าวธนาคาร
ข่าวบริษัทในกลุ่มธนาคารทิิสโก้
© สงวนลิขสิทธิ์ 2561 ธนาคารทิสโก้ จำกัด มหาชน
ประกาศความเป็นส่วนตัว
|
คำสงวนสิทธิ์
|
แผนผังเว็บไซต์