โพสต์เมื่อ 20 มกราคม 2563 | โดย : ภาคภูมิ พีรยวัฒนา AFPT™Assistant Wealth Manager ธนาคารทิสโก้
กำลังมองหาวิธีเอาชนะตลาดหุ้นไทยช่วง 3 เดือนแรกของปี 2563 นี้อยู่ใช่ไหม ? คำตอบอยู่ที่นี่แล้ว!!!
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) มองว่า “ไตรมาสแรกของปี 2563” ตลาดหุ้นทั่วโลกจะยังคงได้รับแรงหนุนจาก 4 ปัจจัยบวก ได้แก่
- การลงนามข้อตกลงทางการค้าเฟส 1 ระหว่างจีนและสหรัฐฯ : น่าจะทำให้ความตึงเครียดในประเด็นสงครามการค้ามีทิศทางผ่อนคลาย และน่าจะทำให้เศรษฐกิจโลกมีโอกาสฟื้นตัวอีกครั้งในปี 2563
- การโหวตรับข้อตกลง Brexit ของสภาอังกฤษ : คาดว่าร่างข้อตกลง Brexit จะได้รับความเห็นชอบจากสภาก่อนเส้นตาย ซึ่งก็คือ วันที่ 31 ม.ค. 2563 นี้
- การฟื้นตัวของราคาน้ำมัน : องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก (OPEC) จะลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงอีกห้าแสนบาร์เรลต่อวันช่วงเดือน ม.ค. เพื่อพยุงราคาน้ำมันและสนับสนุนกำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.)
- ธนาคารกลางหลักของโลกคงดอกเบี้ยระดับต่ำ - อัดฉีดสภาพคล่อง - มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) : ปัจจัยบวกที่กล่าวมานี้ จะส่งผลให้สภาพคล่องในระบบเป็นบวกตลอดทั้งปี 2563 ช่วยหนุนให้ Valuation ตลาดหุ้นทรงตัวอยู่ในระดับสูง
ลงทุนอะไรเอาชนะตลาดได้
แม้จะมีปัจจัยบวกสนับสนุน แต่ถ้าจะให้เลือกการลงทุนที่ช่วยเพิ่มโอกาสเอาชนะตลาดได้ ก็มี 2 รูปแบบที่น่าสนใจ
- ลงทุนตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging Market) โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีน และเอเชียเหนือ : ข่าวบวกด้านการบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ผสานกับข่าวดีเรื่องทิศทางค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนลง จะหนุนให้ตลาดหุ้นเกิดใหม่ให้ผลตอบแทนดีขึ้น (ดูจากภาพประกอบ)
อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ลงทุนแบบระยะสั้นในตลาดหุ้นเกิดใหม่ โดยเมื่อเข้าซื้อแล้ว ควรหาจังหวะขายทำกำไรภายในเดือน ก.พ.ก่อนที่ตลาดจะเริ่มมีความกังวลต่อนโยบายของผู้สมัครท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต
ภาพ 1 : ผลตอบแทนของตลาดหุ้นเกิดใหม่ ที่มักเพิ่มขึ้นเมื่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่า
ที่มา: TISCO ESU , Bloomberg
- ลงทุนกลุ่มหุ้นปันผลดี SETHD (SET High Dividend 30 Index) : ตอนนี้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลของหุ้นกลุ่มนี้ เรียกได้ว่าสูงอย่างมากถึง 5.4% (สูงที่สุดในรอบ 9 ปีที่ผ่านมา) แถมยังมีราคาตามมูลค่าพื้นฐาน (Valuation) ที่ไม่สูง เมื่อดูจากค่า Forward P/E ราว 11.64 เท่า เทียบกับ Forward P/E ของตลาดหุ้นไทย ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 15.3 เท่า
ที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือ ถ้าลองดูจากสถิติย้อนหลังตั้งแต่ปี 2555-2562 จะพบได้ว่าในเดือน ม.ค. และ ก.พ. ดัชนี SETHD ให้ผลตอบแทนที่เป็นบวกถึง 15 เดือนจาก 16 เดือนที่เก็บข้อมูล ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่น่าสนใจมากทีเดียว
ภาพ 2 : อัตราผลตอบแทนรายเดือนของดัชนี SETHD ตั้งแต่เดือน ม.ค. - ธ.ค. ปี 2555 - 2562
ที่มา: TISCOASSET, www.set.or.th
หากเข้าใจปัจจัยการลงทุนตลาดอย่างรอบด้าน การลงทุนเพื่อเอาชนะตลาดช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 ก็ไม่ใช่เรื่องยากต่อไป
© สงวนลิขสิทธิ์ 2561 ธนาคารทิสโก้ จำกัด มหาชน