2 ธีมที่เติบโตอย่างแตกต่าง

“ถ้าต้องการเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า ก็ต้องมองหาการลงทุนที่แตกต่างไปจากเดิม” … ว่าแต่อะไรล่ะ ที่จะเติบโตอย่างแตกต่างได้ในเวลานี้ ? นี่คือสิ่งที่เราจะเล่าให้ฟัง

        หากคุณกำลังมองหาการลงทุนที่สามารถ “เติบโตอย่างแตกต่าง”ได้ในภาวะนี้ นั่นหมายความว่า คุณกำลังมองหาธุรกิจที่มีศักยภาพด้านการสร้างรายได้และกำไรที่โดดเด่นเหนือกลุ่ม … ซึ่งเราพบว่า มี 2 ธีมการลงทุนที่เรียกได้เลยว่าใช่!!!

"Healthcare Innovation" ผู้สร้างปรากฏการณ์เติบโตเหนือธุรกิจการแพทย์แบบดั้งเดิม

        “ธุรกิจนวัตกรรมการแพทย์” โดยเฉพาะ3 ธุรกิจดาวรุ่งของกลุ่ม ได้แก่ 1.Biotech Biophama 2.Digital และ 3.Medtech นั้น ได้ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อวงการแพทย์มากขึ้นเรื่อยๆ 

        โดยในแง่“การเติบโต” ของธุรกิจนวัตกรรมการแพทย์ ขอยกตัวอย่างธุรกิจด้าน “Biotech และBiophama” ซึ่งจากข้อมูลของ EvaluatePharma ( As of : June 2020) ระบุว่า ในปี 2020 ธุรกิจไบโอเทคโนโลยี มีส่วนแบ่งการตลาดในด้านยอดขายยาของโลกถึง 30% เพิ่มขึ้นจากปี 2012 ที่มีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 20% เท่านั้น

        ซึ่งสาเหตุเป็นเพราะ ธุรกิจนี้สามารถผลิตยารักษาโรคมะเร็ง หรือ Oncology ช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับในอดีต และไม่ใช่เพียงแค่นี้ มีการคาดการณ์ว่า ธุรกิจด้าน “Biotech และBiophama” ยังมีโอกาสเติบโตอย่างน่าสนใจในอนาคตได้อีกด้วย

        ในแง่ของ “ความแตกต่าง” ของธุรกิจนวัตกรรมการแพทย์ เห็นได้ชัดเจนจากการนำผลตอบแทนของ “กองทุนรวมธุรกิจการแพทย์ดั้งเดิม” และ “กองทุนรวมนวัตกรรมการแพทย์” มาเปรียบเทียบกัน

        โดยจากข้อมูลของ Bloomberg จะพบว่า เมื่อนำอัตราผลตอบแทนช่วง 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี และนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนของ “กองทุนรวมธุรกิจนวัตกรรมการแพทย์” ที่มีนโยบายลงทุนในกองทุนหลักต่างประเทศ (Master Fund) ได้แก่ กองทุนรวมธุรกิจด้านBiotech  และกองทุนรวมธุรกิจDigital Healthcare  มาเปรียบเทียบกับ “กองทุนรวมธุรกิจการแพทย์ดั้งเดิม” ซึ่งมีนโยบายลงทุนในกองทุนหลักต่างประเทศ

        จะพบว่า อัตราผลตอบแทนกองทุนรวมธุรกิจด้านBiotech และกองทุนรวมธุรกิจDigital Healthcare ปรับตัวสูงกว่า กองทุนรวมธุรกิจการแพทย์ดั้งเดิมอย่างชัดเจน  และที่น่าสนใจอย่างมากอีกเรื่องหนึ่งก็คือ อัตราผลตอบแทนกองทุนรวมธุรกิจนวัตกรรมการแพทย์ทั้งสองประเภท ยังปรับตัวสูงกว่าเมื่อเทียบกับอัตราผลตอบแทนของดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) อีกด้วย

  ดังนั้น "Healthcare Innovation" จึงเป็นธีมอันดับแรกที่ตอบโจทย์การเติบโตที่แตกต่าง

"The rise of China & Asia" จีน-เอเชีย พลังแห่งการเติบโตที่โดดเด่น

        ถ้าจะลงทุนในประเทศไหนซักแห่ง … จีนคือประเทศที่ไม่ควรมองข้าม !!!

        ในแง่ของ “การเติบโต” ของประเทศจีน ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) มองว่า เศรษฐกิจจีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 1/2021 และคาดว่า GDPจะขยายตัวสูง 18.1% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากได้แรงหนุนจากความต้องการทั้งในและนอกประเทศที่ฟื้นตัว รวมถึงการควบคุมการระบาดของไวรัสที่มีประสิทธิผล จึงให้น้ำหนักการลงทุน (Overweight) ในประเทศจีน 

        ส่วนในแง่ “ความแตกต่าง” ของประเทศจีน จะพบได้ว่า มีหลายธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตแบบฉีกตัวออกมาอย่างโดดเด่น เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้าฟุ่มเฟือย เป็นต้น

        โดยประเด็นนี้ เป็นผลจากการสำรวจของ McKinsey ซึ่งระบุว่า จีนเป็นประเทศที่ประชากรเชื่อมั่นมากที่สุดว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวเป็นปกติหลังจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ซึ่งปัจจัยนี้เอง จึงมีส่วนสนับสนุนให้คนกล้าใช้จ่ายสินค้าในหมวดสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น รถยนต์ กระเป๋า การท่องเที่ยว ภัตตาคาร มากกว่าประเทศอื่น ๆ ในโลก

        และนี่เอง จึงส่งผลให้ “Healthcare Innovation” และ"The rise of China & Asia"  เป็น 2 ธีมที่เติบโตอย่างแตกต่าง