TH EN

ซื้อกองทุนหุ้นแบบไหน ที่ได้ของ "ถูกและดี"

โพสต์เมื่อ 10 มกราคม 2563 | โดย : คุณ วรสินี เศรษฐบุตร หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ สายธุรกิจธนบดี ธนาคารทิสโก้

ใครๆ ก็ต้องการของ “ถูกและดี” ไม่เว้นแม้แต่การลงทุน ที่นักลงทุนส่วนใหญ่มักจะแสวงหา สินทรัพย์ที่มีราคาถูกและดี มีโอกาสสร้างกำไร … ซึ่งแน่นอน มันมีอยู่จริง!

“คุณ วรสินี เศรษฐบุตร” หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ สายธุรกิจธนบดี ธนาคารทิสโก้” อธิบายว่า จากการประเมินภาพรวมสินทรัพย์การลงทุนโดยรวมทั่วโลก จะพบว่าสินทรัพย์ที่โดดเด่นและยังมีราคาที่ไม่แพงในตอนนี้ก็คือ “หุ้นของประเทศตลาดเกิดใหม่” (Emerging Market) ในเอเชีย เช่น จีน ไต้หวัน เกาหลี ฯลฯ

หุ้น Emerging Market ถูกจริงไหม ?

หากวิเคราะห์ในเรื่องของ “ความถูก” หรือ “ราคาที่ไม่แพง” นั้น ต้องบอกว่าหุ้นของประเทศตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย เช่น จีน ไต้หวัน เกาหลี ฯลฯ ยังมีราคาที่เรียกได้ว่าไม่แพงจริงๆ

โดยจะเห็นได้จากข้อมูลในปีที่ผ่านมา (2562) ซึ่งพบว่า ตลาดหุ้นในประเทศพัฒนาแล้ว ได้ปรับตัวขึ้นไปสูงอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ดัชนี S&P 500 ทั้งปีก่อน ปรับตัวขึ้นสูงถึง 27% มากกว่าเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นEmerging Market ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งโดยเฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.6% ดังนั้น นี่จึงน่าจะเป็นสิ่งที่สะท้อนได้ว่า ตลาดหุ้น Emerging Market อยู่ในระดับที่ไม่แพงจริงๆ

หุ้น Emerging Market มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นแค่ไหน ?

หุ้น Emerging Market มีโอกาสปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่ปัจจัยกดดันตลาดหุ้นก่อนหน้านี้คลี่คลาย ทั้งเรื่องของ ข้อตกลงทางการค้าระหว่างจีนสหรัฐ ที่มีทิศทางดีขึ้นในเฟส 1 , ประเด็นบวกจากการที่ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ยังมีการอัดฉีดสภาพคล่องเข้ามาในระบบ รวมถึงการที่ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนตัวลง ซึ่งล้วนแล้วแต่สนับสนุนตลาดหุ้น Emerging Market ในเอเชียทั้งสิ้น

ไม่เพียงเท่านี้ หากเจาะลึกใน 3 ตลาดหุ้น Emerging Marketของเอเชีย จะพบว่ามีประเด็นที่น่าสนใจเพิ่มเติมดังนี้

  1. ตลาดหุ้นจีน มีปัจจัยบวก คือ
    • การเน้นนโยบายการบริโภคภายในประเทศ ทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศขยายตัวและลดผลกระทบจากสงครามทางการค้า
    • การปรับลดอัตราดอกเบี้ยและส่วนการกันสำรองของสถาบันการเงิน (RRR) ช่วยกระตุ้นการขยายสิน เชื่อและสนับสนุนให้เม็ดเงินไหลเข้าในระบบเศรษฐกิจการเงินมากขึ้น
    • การก่อตั้งบริษัทข้ามชาติที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศจีนได้ง่าย ทำให้ส่งผลการจ้างภายในประเทศมากขึ้น
    • การลดภาษี ช่วยให้ความต้องการบริโภคในประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการขยายตัวเศรษฐกิจภายในประเทศ
    • รัฐบาลจีนได้กระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ เพื่อดึงดูดเม็ดเงินระยะยาว
  2. เกาหลีใต้ มีปัจจัยบวก คือ
    • การพัฒนาสินค้าเข้าสู่เทคโนโลยี 5G มีโอกาสได้รับผลบวกจากความต้องการทางด้านชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และ ICT
    • การส่งออกผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วหลังจากสงครามการค้าสงบลง
    • นโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลาย ทั้งการอัดฉีดจากรัฐบาลและดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่ต่ำ จะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัวมากขึ้น
  3. ไต้หวัน มีปัจจัยบวก คือ
    • การปรับโครงสร้างภาษี ช่วยให้บริษัทใต้หวันหันกลับมาตั้งฐานการผลิตในประเทศตัวเอง
    • ได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนาเทคโนโลยี 5G ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จากความต้องการในด้านสินค้าและอุปกรณ์ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก
    • ไต้หวันเป็นเป็นประเทศที่เกินดุลการค้าสม่ำเสมอและทุนสำรองระหว่างประเทศที่สูงจะช่วยป้องกันปัญหาต่างๆได้ดี

ดังนั้น หากใครกำลังมองหาการลงทุนในหุ้นที่ยังมีราคาไม่สูงนัก และมีโอกาสปรับตัวขึ้น ...ตลาดหุ้น Emerging Market ในเอเชีย ก็เป็นคำตอบที่น่าสนใจอย่างมาก

© สงวนลิขสิทธิ์ 2561 ธนาคารทิสโก้ จำกัด มหาชน