TH EN

กองทุนดาวรุ่งรับปี’65 เจาะMetaverseและธีมเด่น...ถ้าไม่มีจะไหวเหรอ ?

โพสต์เมื่อ 30 ธันวาคม 2564 | บทความโดย : นางวรสินี เศรษฐบุตร
ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุนและสื่อสารการตลาด สายธุรกิจธนบดี ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)

เศรษฐกิจทั่วโลกดูเหมือนยังมีปัจจัยกดดันหลายเรื่อง โดยเฉพาะไวรัสCOVID-19 ที่ยังไม่มีที่ท่าว่าจะจบลงเมื่อไหร่...ถึงเวลาเแล้วที่จะเจาะลึกว่า กองทุนที่อยู่ในพอร์ตตอนนี้ พร้อมสู้ศึกการลงทุนปี 2565 หรือยัง?

        สถานการณ์การลงทุนปี2565นี้ นับว่าเป็นปีที่ยากมากๆอีกปีหนึ่งสำหรับการลงทุน โดยจะเห็นได้จากการที่ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เอง ก็ยังประเมินว่า เศรษฐกิจโลกปี 2565 จะเติบโตแบบชะลอตัวมาอยู่ที่ 4.9% จากปี 2564 ที่คาดว่าจะเติบโต 5.9%

        โดยปัจจัยลบก็คือ

        1.การบริโภคสินค้า ที่ได้รับแรงหนุนจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคในช่วง COVID น่าจะผ่านพ้นช่วงฟื้นตัวสูงสุดไปแล้ว

        2.การใช้จ่ายในภาคบริการยังฟื้นตัวช้าตามความกังวลต่อจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีการเร่งตัวขึ้นเป็นระยะ

        3.ปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การแจกเงิน และเงินชดเชยผู้ว่างงานเพิ่มเติม ที่ทยอยหมดลง และ

        4. การเร่งเติมสินค้าคงคลังซึ่งน่าจะลดลงโดยเฉพาะหลังเทศกาลคริสต์มาส

       

         “คุณวรสินี เศรษฐบุตร” ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุนและสื่อสารการตลาด สายธุรกิจธนบดี ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)ระบุว่า ปัจจัยลบทั้งหมดนี้ จะส่งผลให้ตลาดการลงทุนปี 2565 มีความผันผวนสูง ดังนั้นแนะนำว่าควรเน้นธุรกิจที่สามารถเติบโตได้ระยะยาว มีพื้นฐานที่ดีอย่างเช่นกองทุนเมกะเทรนด์

        ขณะเดียวกัน แนะนำให้หาจังหวะลงทุนในกองทุนตลาดหุ้นต่างประเทศ ที่มีปัจจัยบวกรองรับ เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน ซึ่ง 3 ธีมที่ธนาคารทิสโก้แนะนำ สำหรับการลงทุนในช่วงต้นปี 2565 ก็คือ

Metaverse : ธุรกิจแนวโน้มโตดี ไม่ใช่แค่ปีนี้ หรือ ปีหน้า

        ธุรกิจ Metaverse เป็นหนึ่งใน Megatrend ที่มีแนวโน้มเติบโตดีในระระยาว โดยข้อมูลจาก Bloomberg คาดการณ์ว่า ปี2565 Metaverse จะมีมูลค่าตลาดที่ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา และในปี 2568 จะมีมูลค่าตลาดที่ระดับ 476 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หรือเพิ่มขึ้น 4 เท่าตัว และระยะยาวไปจนถึงปี 2573 มูลค่าของตลาดนี้จะอยู่ที่ราว 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา1 ซึ่งการเติบโตก้าวกระโดดนี้เอง ธนาคารทิสโก้จึงมองว่า นี่คือโอกาสน่าสนใจของการลงทุน

        ทั้งนี้กลุ่มกองทุนธุรกิจดาวเด่นในธีม Metaverse ที่ธนาคารทิสโก้ เลือกมี 4 กลุ่มได้แก่

        1.Cyber Security กองทุนที่เน้นลงทุนธุรกิจเกี่ยวข้องกับการป้องกันอาชญากรรมบนโลกไซเบอร์  ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตดี โดยมีการคาดการณ์ว่า ในปี2564 - 2568 ค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ (Cybersecurity) ทั่วโลก จะมีมูลค่ารวมกว่า 1.75 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หรือเพิ่มขึ้น15% ต่อปี2

        2. Cloud Computing กองทุนที่เน้นลงทุนธุรกิจเบื้องหลังความสำเร็จของ Metaverse ประกอบด้วย Software as a Service, Platform as a Service, Infrastructure as a Service

        3. Esports กองทุนที่เน้นลงทุนธุรกิจเกมออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันเกมออนไลน์ได้ถูกยกระดับขึ้นเป็นการแข่งขันกีฬา ซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากทั่วโลก

        4.Metaverse ecosystem กองทุนที่ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse หลากหลายรูปแบบ เช่น Hardware, Software, ทรัพย์สินดิจิทัลต่างๆ บนระบบ และ Platform Metaverse เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้กระจายการลงทุนดียิ่งขึ้น

นวัตกรรมการแพทย์ : วัคซีน ยา รับกระแสAging society

        หุ้นกลุ่มนวัตกรรมการแพทย์ (Healthcare Innovation) นับเป็นธีมเมกะเทรนด์สุดคลาสสิกที่ธนาคารทิสโก้ แนะนำให้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจด้านไบโอเทคโนโลยี (Biotechnology)

        เพราะไม่ใช่แค่ตอบโจทย์ในยุคไวรัส COVID-19 ระบาดไปทั่วโลกเท่านั้น แต่ธุรกิจนี้ยังมีบทบาทอย่างมากในยุคสังคมสูงวัย ( (Aging Society) ที่ประชากรโลกมีแนวโน้มอายุยืนขึ้น เช่นเดียวกับประเทศไทย ซึ่งก็มีการคาดการณ์ว่าประชากรที่เกิดตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นไป จะมีโอกาสอายุยืนขึ้นถึง 100ปี3

        ข้อมูลทั้งหมดนี้จึงหมายความว่า ประชากรทั่วโลก กำลังต้องการผลผลิตที่เกิดจากกลุ่มธุรกิจนวัตกรรมการแพทย์ ทั้งวัคซีน เพื่อป้องกันไวรัส รวมถึงยารักษาโรคที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น สำหรับดูแลชีวิตที่มีแนวโน้มยืนยาวขึ้นนั่นเอง

        ดังนั้น “คุณวรสินี” จึงยังคงแนะนำ กองทุนที่เน้นหุ้นกลุ่มนวัตกรรมการแพทย์ ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ ที่สามารถเติบโตต่อไปได้ในระยะยาวกว่า 5-10 ปี

Developed market : ญี่ปุ่น-ยุโรป ตลาดหุ้นที่น่าสนใจเมื่อราคาย่อตัว

        หุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Market: DM) อย่างตลาดหุ้นญี่ปุ่น และยุโรป น่าสนใจ “ทยอยซื้อ” เมื่อราคาย่อตัวลง เพื่อหาจังหวะทำกำไรช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้น

        นั่นก็เพราะทั้งสองประเทศนี้ มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว โดยคาดว่าหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดในไตรมาสที่ 1/2565 โดยทั้งสองประเทศยังมีเม็ดเงินส่วนเพิ่มจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

        ในฝั่งของประเทศญี่ปุ่นที่จะมีเม็ดเงินกว่า 78.9 ล้านล้านเยน คิดเป็น 5.6% ของ GDP และฝั่งยุโรปที่จะมีวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 7.5 แสนล้านยูโร คิดเป็น 5.5% ของ GDP

        นอกจากนี้ ระดับมูลค่าหุ้น (Valuation) ของสองประเทศยังมีความน่าสนใจ ด้วยระดับอัตราราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น 12 เดือนข้างหน้า (Forward P/E 12 Months) เพียง 14 เท่า และ 15.5 เท่าตามลำดับ ซึ่งอยู่ในระดับไม่ได้สูงเกินไปเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา4

        ถึงตอนนี้อาจต้องทบทวนแล้วว่า กองทุนที่มีในพอร์ตจะพาคุณฝ่าปัจจัยลบปี 2565 ไหวไหม ? ธีมกองทุนที่เราแนะนำ ใช่สิ่งที่คุณมองหาหรือเปล่า?

หากคุณสนใจกองทุนรวม ที่มีนโยบายการลงทุนในแบบที่เราแนะนำ คลิกลิงก์ด้านล่าง เพื่อติดตามรายละเอียดกองทุนรวมที่เราคัดสรร หรือสามารถกรอกข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ

ที่มา

1 PwC (Metaverse marketsize,Bloomberg)

2. Global Cybersecurity Spending (https://cybersecurityventures.com/cybersecurity-spending-2021-2025/)

3. สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ปี 2562, บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)

4. Press release (‘ธ.ทิสโก้’ เปิด 3 ธีมลงทุนสร้างกำไรงาม รับปี 2565 แนะซื้อ ‘เทคโนโลยีแห่งอนาคต นวัตกรรมการแพทย์ ยุโรป และญี่ปุ่น’)

© สงวนลิขสิทธิ์ 2561 ธนาคารทิสโก้ จำกัด มหาชน